เมนู

พระศาสดาทรงทำคุณของสามเณรให้ปรากฏ


พระศาสดาทรงทำปฏิสันถารกับด้วยท่านแล้ว ตรัสเรียกพระอานนท-
เถระมาว่า " อานนท์ เราเป็นผู้มีความประสงค์เพื่อจะล้างเท้าทั้งสองด้วย
น้ำในสระอโนดาต เธอจงให้หม้อแก่พวกสามเณรแล้วให้นำน้ำมาเถิด."
พระเถระ ให้สามเณรประมาณ 500 ในวิหารประชุมกันแล้ว.
บรรดาสามเณรเหล่านั้น สุมนสามเณรได้เป็นผู้ใหม่กว่าสามเณร
ทั้งหมด. พระเถระกล่าวกะสามเณรผู้แก่กว่าสามเณรทั้งหมดว่า " สามเณร
พระศาสดามีพระประสงค์จะทรงล้างพระบาททั้งสองด้วยน้ำในสระอโนดาต,
เธอจงถือหม้อน้ำไปนำน้ำมาเถิด." สามเณรนั้นไม่ปรารถนา ด้วยกล่าวว่า
" กระผมไม่สามารถ ขอรับ. " พระเถระถามสามเณรทั้งหลายแม้ที่เหลือ
โดยลำดับ. แม้สามเณรเหล่านั้น ก็พูดปลีกตัวอย่างนั้นแล.
มีคำถามว่า " ก็บรรดาสามเณรเหล่านี้ เณรผู้เป็นขีณาสพ
ไม่มีหรือ ?"
แก้ว่า " มีอยู่. แต่สามเณรเหล่านั้นไม่ปรารถนา ด้วยคิดเห็นว่า
" พวงดอกไม้นี้ พระศาสดาไม่ทรงผูกไว้เพื่อพวกเรา พระองค์ทรงผูกไว้
เพื่อสุมนสามเณรองค์เดียว. แต่พวกสามเณรผู้เป็นปุถุชนไม่ปรารถนา
ก็เพราะความที่ตนเป็นผู้ไม่สามารถนั่นเอง. "
ก็ในที่สุด เมื่อวาระถึงแก่สุมนสามเณรเข้า, พระเถระกล่าวว่า
" สามเณร พระศาสดามีพระประสงค์จะทรงล้างพระบาททั้งสองด้วยน้ำ
ในสระอโนดาต, ได้ยินว่า เธอจงถือเอาหม้อไปตักน้ำมา" สุมนสามเณร
นั้น เรียนว่า " เมื่อพระศาสดาทรงให้นำมา, กระผมจักนำมา" ดังนี้แล้ว
ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว กราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ได้ยินว่า

พระองค์ให้ข้าพระองค์นำน้ำมาจากสระอโนดาตหรือ ? พระเจ้าข้า "
พระศาสดา ตรัสว่า " อย่างนั้น สุมนะ. "
สุมนสามเณรนั้น เอามือจับหม้อใหญ่ใบหนึ่ง ซึ่งจุน้ำได้ตั้ง 60
หม้อ ในบรรดาหม้อสำหรับเสนาสนะ ซึ่งเลี่ยมดาดด้วยทองแท่ง อัน
นางวิสาขาให้สร้างไว้ หิ้วไปด้วยคิดว่า " ความต้องการของเราด้วยหม้อ
อันเรายกขึ้นตั้งไว้บนจะงอยบ่านี้ ย่อมไม่มี " เหาะขึ้นสู่เวหาส บ่ายหน้า
ต่อหิมวันตประเทศ รีบไปแล้ว.
นาคราชเห็นสามเณรซึ่งกำลังมาแต่ไกลเทียว จึงต้อนรับ แบกหม้อ
ด้วยจะงอยบ่า กล่าวว่า " ท่านเจ้าข้า เมื่อผู้รับใช้เช่นข้าพเจ้ามีอยู่เพราะ
อะไร พระผู้เป็นเจ้าจึงมาเสียเอง; เมื่อความต้องการน้ำมีอยู่, เหตุไร ?
พระผู้เป็นเจ้าจึงไม่ส่งเพียงข่าวสาสน์มา" ดังนี้แล้ว เอาหม้อตักน้ำแบกเอง
กล่าวว่า " นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าล่วงหน้าไปก่อนเถิดขอรับ, ข้าพเจ้าเอง
จักนำไป. " สามเณรกล่าวว่า " มหาราช ท่านจงหยุด, ข้าพเจ้าเองเป็นผู้
อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้มา " ดังนี้ให้พระยานาคกลับแล้ว เอามือจับ
ที่ขอบปากหม้อ เหาะมาทางอากาศ.
ลำดับนั้น พระศาสดาทรงแลดูเธอซึ่งกำลังมา ตรัสเรียกพวกภิกษุ
มาแล้ว ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงดูการเยื้องกรายของสามเณร,
เธอย่อมงดงามดุจพระยาหงส์ในอากาศฉะนั้น."
แม้สามเณรนั้นวางหม้อน้ำแล้ว ได้ถวายบังคมพระศาสดาแล้วยืนอยู่.
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะเธอว่า " สุมนะ เธอมีอายุได้เท่าไร ?
สามเณรกราบทูลว่า " มีอายุ 7 ขวบ พระเจ้าข้า." พระศาสดาตรัสว่า
" สุมนะ ถ้ากระนั้น ตั้งแต่วันนี้ เธอจงเป็นภิกษุเถิด" ดังนี้แล้ว
ได้ประทานทายัชชอุปสมบท.

ได้ยินว่า สามเณรผู้มีอายุ 7 ปี 2 รูปเท่านั้น ได้อุปสมบท คือสุมน-
สามเณรนี้รูปหนึ่ง โสปากสามเณรรูปหนึ่ง เมื่อสุมนสามเณรนั้นอุปสมบท
แล้วอย่างนั้น พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า " ผู้มีอายุทั้งหลาย
กรรมนี้น่าอัศจรรย์:- อานุภาพของสามเณรน้อย แม้เห็นปานนี้ก็มีได้,
อานุภาพเห็นปานนี้ พวกเราไม่เคยเห็นแล้ว ในกาลก่อนแต่กาลนี้."

สมบัติย่อมสำเร็จแก่เด็ก ๆ ได้


พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ
นั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ ?" เมื่อพวกเธอกราบทูลว่า " ด้วยเรื่อง
ชื่อนี้ พระเจ้าข้า" ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ในศาสนาของเรา บุคคล
แม้เป็นเด็ก ปฏิบัติชอบแล้ว ย่อมได้สมบัติเห็นปานนี้เหมือนกัน" เมื่อ
จะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
12. โย หเว ทหโร ภิกฺขุ ยุญฺชติ พุทฺธสาสเน
โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.
" ภิกษุใด แลยังหนุ่ม พากเพียรอยู่ในพระพุทธ-
ศาสนา, ภิกษุนั้น ย่อมยังโลกนี้ให้สว่างดุจพระจันทร์
ที่พ้นแล้วจากหมอก (เมฆ) สว่างอยู่ฉะนั้น."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยุญฺชติ ได้แก่ พากเพียร คือ
พยายามอยู่.
บทว่า ปภาเสติ เป็นต้น ความว่า ภิกษุนั้นย่อมยังโลกต่างโดย
ขันธโลกเป็นต้น ให้สว่างได้ คือย่อมทำให้มีแสงสว่างเป็นอันเดียวกัน