เมนู

พุ่งขึ้นแล้ว. สามเณรยังขวดน้ำดื่มให้เต็ม ณ อากาศนั้นเอง. หมู่เทพได้
ให้สาธุการแล้ว.

พระยานาคแพ้สามเณร


นาคราชละอาย โกรธต่อสามเณรแล้ว. นัยน์ตาทั้งสองของนาคราช
นั้นได้มีสีดุจดอกชบา. พระยานาคนั้นคิดว่า " สมณะโล้นนี้ให้หมู่เทพ
ประชุมกันแล้ว ถือเอาน้ำดื่ม ยังเราให้ละอายแล้ว, เราจะจับเธอ สอด
มือเข้าในปากแล้ว ขยี้เนื้อหทัยของเธอเสีย, หรือจะจับเธอที่เท้า แล้ว
ขว้างไปฟากแม่น้ำข้างโน้น " ดังนี้แล้วติดตามไปโดยเร็ว. แม้ติดตามไป
อยู่ ก็ไม่สามารถจะทันสามเณรได้เลย.
สามเณรมาแล้ว วางน้ำดื่มไว้ในมือพระอุปัชฌายะ เรียนว่า " ขอท่าน
จงดื่มเถิด ขอรับ."

พระยานาคพูดเท็จแต่สามเณรไม่พูดเท็จ


แม้พระยานาคก็มาข้างหลัง กล่าวว่า " ท่านอนุรุทธะผู้เจริญ สามเณร
ถือเอาน้ำซึ่งข้าพเจ้ายังไม่ได้ให้เลยมา, ขอท่านจงอย่าดื่ม."
พระเถระ. ถามว่า " นัยว่า อย่างนั้นหรือ ? สามเณร."
สามเณร. ขอนิมนท์ท่านดื่มเถิด ขอรับ, น่าดื่มอันพระยานาคนี้
ให้แล้ว กระผมจึงนำมา.
พระเถระทราบว่า " ขึ้นชื่อว่าการกล่าวคำเท็จของสามเณรผู้เป็น
ขีณาสพ ย่อมไม่มี " จึงดื่มน้ำแล้ว. อาพาธของท่านสงบลงในขณะนั้นเอง.
นาคราชกล่าวกะพระเถระอีกว่า " ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นผู้อัน
สามเณรให้หมู่เทพทั้งหมดประชุมกันให้ละอายแล้ว ข้าพเจ้าจักผ่าหทัย
ของเธอ, หรือจักจับเธอที่เท้า และขว้างไปที่ฝั่งแม่น้ำข้างโน้น."