เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า ททาติ เว ยถาสทฺธํ ความ
ว่า ชนเมื่อให้บรรดาวัตถุมีของเศร้าหมองและประณีตเป็นต้น อย่างใด
อย่างหนึ่ง ชื่อว่าย่อมให้ตามศรัทธา คือ ตามสมควรแก่ศรัทธาของตน
นั่นแล.
บทว่า ยถาปสาทนํ ความว่า ก็บรรดาภิกษุผู้เป็นเถระและภิกษุ
ใหม่เป็นต้น ความเลื่อมใสในภิกษุใด ๆ ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น, เมื่อ
ถวาย (ทาน) แก่ภิกษุนั้น ชื่อว่าย่อมถวายตามความเลื่อมใส คือตาม
สมควรแก่ความเลื่อมใสของตนนั่นแล.
บทว่า ตตฺถ เป็นต้น ความว่า ย่อมถึงความเป็นผู้เก้อเขินในเพราะ
ทานของชนอื่นนั้นว่า " เราได้วัตถุเล็กน้อย, เราได้ของเศร้าหมอง."
บทว่า สมาธึ เป็นต้น ความว่า บุคคลนั้นย่อมไม่บรรลุสมาธิด้วย
สามารถแห่งอุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ หรือด้วยสามารถแห่งมรรค
และผล ในกลางวันหรือในกลางคืน.
สองบทว่า ยสฺส เจตํ ความว่า อกุศลกรรมนั่น กล่าวคือความ
เป็นผู้เก้อเขินในฐานะเหล่านั้น อันบุคคลใดตัดขาดแล้ว ถอนขึ้น ทำให้มี
รากขาดแล้ว ด้วยอรหัตมรรคญาณ. บุคคลนั้นย่อมบรรลุสมาธิ มีประการ
ดังกล่าวแล้ว.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องภิกษุหนุ่มชื่อติสสะ จบ.