เมนู

6. เรื่องปัญจัคคทายกพราหมณ์ [257]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์ชื่อ
ปัญจัคคทายก ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " สพฺพโส นามรูปสฺมึ"
เป็นต้น.

เหตุที่พราหมณ์ได้ชื่อว่าปัญจัคคทายก


ดังได้สดับมา พราหมณ์นั้นย่อมถวายทานชื่อเขตตัคคะ1 ในเวลา
แห่งนาข้าวกล้าอันตนเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วนั่นแล, ในเวลาขนข้าวลาน ก็
ถวายชื่อขลัคคคะ,2 ในเวลานวด ก็ถวายทานชื่อขลภัณฑัคคะ,3 ในเวลาเอา
ข้าวสารลงในหม้อ ก็ถวายทานชื่ออุกขลิกัคคะ,4 ในเวลาที่ตนคดข้าวใส่
ภาชนะ ก็ถวายทานชื่อปาฏิคคะ,5 พราหมณ์ย่อมถวายทานอันเลิศทั้ง 5
อย่างนี้.
พราหมณ์นั้น ชื่อว่า ยังไม่ให้แก่ปฏิคาหกผู้ที่มาถึงแล้ว ย่อมไม่
บริโภค. เพราะเหตุนั้น เขาจึงได้มีชื่อว่า "ปัญจัคคทายก" นั่นแล.

พระศาสดาเสด็จไปโปรดพราหมณ์และภรรยา


พระศาสดาทรงเห็นอุปนิสัยแห่งผลทั้ง 3 ของพราหมณ์นั้น และ
นางพราหมณีของเขา จึงได้เสด็จไปในเวลาบริโภคของพราหมณ์ แล้ว
ประทับยืนอยู่ที่ประตู. แม้พราหมณ์นั้นบ่ายหน้าไปภายในเรือน นั่ง
บริโภคอยู่ที่หน้าประตู, เขาไม่เห็นพระศาสดาผู้ประทับยืนอยู่ที่ประตู.
1. ทานอันเลิศในนา 2. ทานอันเลิศในลาน. 3. ทานอันเลิศในคราวนวด. 4. ทาน
อันเลิศในคราวเทข้าวสารลงหม้อข้าว. 5. ทานอันเลิศในคราวคดข้าวสุกใส่ภาชนะ.

ส่วนนางพราหมณีของเขา กำลังเลี้ยงดูเขาอยู่ เห็นพระศาสดาจึง
คิดว่า " พราหมณ์นี้ ถวายทานอันเลิศในฐานะทั้ง 5 ( ก่อน ) แล้วจึง
บริโภค, ก็บัดนี้ พระสมณโคดมเสด็จมาประทับยืนอยู่ที่ประตู; ถ้าว่า
พราหมณ์เห็นพระสมณโคคมนี่แล้ว จักนำภัตของตนไปถวาย, เราจัก
ไม่อาจเพื่อจะหุงต้มเพื่อเขาได้อีก." นางคิดว่า " พราหมณ์นี้จักไม่เห็น
พระสมณโคดมด้วยอาการอย่างนี้" จึงหันหลัง1ให้เพระศาสดา ได้ยืนก้ม
ลงบังพระศาสดานั้นไว้ข้างหลังพราหมณ์นั้น ประดุจบังพระจันทร์เต็มดวง
ด้วยฝ่ามือฉะนั้น. นางพราหมณียืนอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ แล้วก็ชำเลือง2
ดูพระศาสดาด้วยหางตา ด้วยคิดว่า " พระศาสดาเสด็จไปแล้วหรือยัง."

พราหมณ์เห็นพระศาสดา


พระศาสดาได้ประทับยืนอยู่ในที่เดิมนั่นเอง. ส่วนนางมิได้พูดว่า
" นิมนต์พระองค์โปรดสัตว์ข้างหน้าเถิด " ก็เพราะกลัวพราหมณ์จะได้ยิน,
แต่นางถอยไป แล้วพูดค่อย ๆ ว่า " นิมนต์โปรดสัตว์ข้างหน้าเถิด."
พระศาสดาทรงสั่นพระเศียร3ด้วยอาการอันทรงแสดงว่า " เราจักไม่
ไป " เมื่อพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่เคารพของชาวโลก ทรงสั่นพระเศียรด้วย
อาการอันแสดงว่า " เราจักไม่ไป," นางไม่อาจอดกลั้นไว้ได้ จึงหัวเราะ
ดังลั่นขึ้น.
ขณะนั้น พระศาสดาทรงเปล่งพระรัศมีไปตรงเรือน. แม้พราหมณ์
นั่งหันหลังให้แล้วนั่นแล ได้ยินเสียงหัวเราะของนางพราหมณี และมอง
เห็นแสงสว่างแห่งพระรัศมีอันมีวรรณะ 6 ประการ จึงได้เห็นพระศาสดา.
1. สตฺถุ ปิฏฺฐึ ทตฺวา ให้ซึ่งหลังแด่พระศาสดา. 2. สตฺถารํ อฑฺฒกฺขิเกน โอโบเกสิ มอง
ดูพระศาสดาด้วยตาครึ่งหนึ่ง. 3. เพ่งเพื่อจะพูดอย่างเดียว หาใส่ใจถึงเสขิยวัตรไม่.
.