เมนู

ก็เมื่อพราหมณ์ทั้งหลายนำช้างมาแล้ว, เมื่อฝนไม่ตก, ด้วยทรง
สำคัญว่า "พระราชานั้นทรงรักษากุรุธรรม; เพราะฉะนั้น ฝนจึงตกใน
แคว้นของพระองค์" พระเจ้ากาลิงคะ จึงทรงส่งพวกพราหมณ์และอำมาตย์
ไปอีก ด้วยพระดำรัสว่า " พวกท่านจงจารึกกุรุธรรมที่พระราชานั้นรักษา
ลงในแผ่นทองคำแล้วนำมา." เมื่อพราหมณ์และอำมาตย์เหล่านั้นไปทูลขอ
อยู่, ชนเหล่านั้นแม้ทั้งหมด นับแต่พระราชาเป็นต้น กระทำอาการสักว่า
ความรังเกียจบางอย่างในศีลทั้งหลายของตน ๆ แล้ว ห้ามว่า " ศีลของ
พวกเราไม่บริสุทธิ์ " ถูกพราหมณ์และอำมาตย์เหล่านั้นอ้อนวอนหนักเข้า
ว่า " ความทำลายแห่งศีล หาได้มีด้วยเหตุเพียงเท่านี้ไม่" จึงได้บอกศีล
ทั้งหลายของตน ๆ แล้ว.

พระเจ้ากาลิงคะทรงรักษากุรุธรรมฝนจึงตก


พระเจ้ากาลิงคะ ได้ทอดพระเนตรกุรุธรรมที่พวกพราหมณ์และ
อำมาตย์จารึกลงในแผ่นทองคำนำมา ทรงสมาทานบำเพ็ญให้บริบูรณ์ด้วย
ดี. ฝนจึงตกในแคว้นของพระองค์, แว่นแคว้นได้เกษม มีภิกษาหาได้
โดยง่ายแล้ว.
พระศาสดาครั้นทรงนำอดีตนิทานนี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า:-
" หญิงแพศยาในครั้งนั้น ได้เป็นนางอุบลวรรณา,
คนรักษาประตู ได้เป็นภิกษุชื่อว่าปุณณะ, อำมาตย์ผู้
ถือเชือก ได้เป็นกัจจานภิกษุ, และอำมาตย์ผู้เป็น
ขุนคลัง ได้เป็นโกลิตะ, เศรษฐีในครั้งนั้น ได้เป็น
สารีบุตร, นายสารถี ได้เป็นอนุรุทธะ, พราหมณ์