เมนู

คาถาธรรมบท



ภิกขุวรรค1ที่ 25



ว่าด้วยทางเดินของภิกษุ


[35] 1. ความสำรวมทางตา เป็นคุณยังประโยชน์ให้
สำเร็จ ความสำรวมทางหู เป็นคุณยังประโยชน์ให้
สำเร็จ ความสำรวมทางจมูก เป็นคุณยังประโยชน์
ให้สำเร็จ ความสำรวมทางลิ้น เป็นคุณยังประโยชน์
ให้สำเร็จ ความสำรวมทางกาย เป็นคุณยังประโยชน์
ให้สำเร็จ ความสำรวมทางใจ เป็นคุณยังประโยชน์
ให้สำเร็จ ภิกษุผู้สำรวมแล้วในทวารทั้งปวง ย่อม
พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.
2. บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวบุคคลผู้มีมือสำรวม
แล้ว มีเท้าสำรวมแล้ว มีวาจาสำรวมแล้ว มีตน
สำรวมแล้ว ยินดีในธรรมอันเป็นไปภายใน มีจิต
ตั้งมั่นแล้ว เป็นคนโดดเดี่ยว สันโดษว่า เป็นภิกษุ.
3. ภิกษุใดสำรวมปาก มีปกติกล่าวด้วยปัญญา
ไม่ฟุ้งซ่านแสดงอรรถและธรรม ภาษิตของภิกษุนั้น
ย่อมไพเราะ.
4. ภิกษุมีธรรมเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในธรรม
ใคร่ครวญอยู่ซึ่งธรรม ระลึกถึงธรรมอยู่ ย่อมไม่
เสื่อมจากพระสัทธรรม.

1. วรรคนี้ มีอรรถกถา 2 เรื่อง.

5. ภิกษุไม่ควรดูหมิ่นลาภของตน ไม่ควรเที่ยว
ปรารถนาลาภของผู้อื่น ภิกษุเมื่อปรารภนาลาภของผู้
อื่น ไม่ประสบสมาธิ ถ้าภิกษุแม้เป็นผู้มีลาภน้อย ก็
ไม่ดูหมิ่นลาภของตน เทพดาทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญ
ภิกษุนั้นแล (ว่า) ผู้มีอาชีพหมดจด ไม่เกียจคร้าน.

6. ความยึดถือในนามรูปว่าเป็นของของเรา ไม่
มีแก่ผู้ใดโดยประการทั้งปวง อนึ่ง ผู้ใดไม่เศร้าโศก
เพราะนามรูปนั้นไม่มีอยู่ ผู้นั้นแล เราเรียกว่า ภิกษุ.

7. ภิกษุใด มีปกติอยู่ด้วยเมตตา เสื่อมใสใน
พระพุทธศาสนา ภิกษุนั้นพึงบรรลุบทอันสงบ เป็นที่
เข้าไประงับสังขารอันเป็นสุข ภิกษุ เธอจงวิดเรือนี้
เรือที่เธอวิดแล้วจักถึงเร็ว เธอตัดราคะและโทสะได้
แล้ว แต่นี้จักถึงพระนิพพาน ภิกษุพึงตัดธรรม 5 อย่าง
พึงละธรรม 5 อย่าง และพึงยังคุณธรรม 5 ให้เจริญ
ยิ่ง ๆ ขึ้น ภิกษุผู้ล่วงกิเลสเครื่องข้อง 5 อย่าง ได้
แล้ว เราเรียกว่า ผู้ข้ามโอฆะได้ ภิกษุ เธอจงเพ่ง
และอย่าประมาท จิตของเธออย่าหมุนไปในกามคุณ
เธออย่าเป็นผู้ประมาทกลืนกินก้อนแห่งโลหะ เธอ
อย่าเป็นผู้อันกรรมแผดเผาอยู่ คร่ำครวญว่า นี้ทุกข์
ฌานย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้ไม่มีปัญญา ปัญญาย่อมไม่
มีแก่ผู้ไม่มีฌาน ฌานและปัญญาย่อมมีในบุคคลใด
บุคคลนั้นแล ตั้งอยู่แล้วในที่ใกล้พระนิพพาน ความ

ยินดีมิใช่ของมีอยู่แห่งมนุษย์ ย่อมมีแก่ภิกษุผู้เข้าไป
แล้วสู่เรือนว่าง ผู้มีจิตสงบแล้ว ผู้เห็นแจ้งธรรมอยู่
โดยชอบ ภิกษุพิจารณาอยู่ ซึ่งความเกิดขึ้นและ
ความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย โดยอาการใด ๆ
เธอย่อมได้ปีติและปราโมทย์โดยอาการนั้น ๆ การ
ได้ปีติและปราโมทย์นั้น เป็นธรรมอันไม่ตายของผู้รู้
แจ้งทั้งหลาย ธรรมนี้คือ ความคุ้มครองอินทรีย์ 1
ความสันโดษ 1 ความสำรวมในพระปาติโมกข์ 1
เป็นเบื้องต้น ในธรรมอันไม่ตายนั้น มีอยู่แก่ภิกษุผู้มี
ปัญญาในพระศาสนานี้ เธอจงคบมิตรที่ดีงาม
อาชีวะอันหมดจด ไม่เกียจคร้าน ภิกษุพึงเป็นผู้
ประพฤติในปฏิสันถาร พึงเป็นผู้ฉลาดในอาจาระ
เพราะเหตุนั้น เธอจักเป็นผู้มากด้วยปราโมทย์ กระ-
ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
8. ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงปลดเปลื้องราคะ
และโทสะเสีย เหมือนมะลิเครือปล่อยดอกทั้งหลายที่
เหี่ยวเสียฉะนั้น.
9. ภิกษุผู้มีกายสงบ มีวาจาสงบ มีใจสงบ ผู้
ตั้งมั่นดีแล้ว มีอามิสในโลกอันคายเสียแล้ว เรา
เรียกว่า ผู้สงบระงับ.
10. เธอจงตักเตือนตนด้วยตน จงพิจารณาดู
ตนนั้นด้วยตน ภิกษุ เธอนั้นมีสติ ปกครองตนได้แล้ว

จักอยู่สบาย ตนแหละเห็นนาถะของตน ตนแหละ
เป็นคติของตน เพราะฉะนั้น เธอจงสงวนตนให้
เหมือนอย่างพ่อค้าม้าสงวนม้าตัวเจริญฉะนั้น.
11. ภิกษุผู้มากด้วยความปราโมทย์ เลื่อมใส
แล้วในพระพุทธศาสนา พึงบรรลุสันตบท เป็นที่
เข้าไปสงบสังขาร เป็นสุข.
12. ภิกษุใดแล ยังหนุ่มพากเพียรอยู่ในพระ-
พุทธศาสนา ภิกษุนั้น ย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจ
พระจันทร์ที่พ้นแล้วจากหมอก (เมฆ) สว่างอยู่ฉะนั้น.

จบภิกขุวรรคที่ 25

25. ภิกขุวรรควรรณนา



1. เรื่องภิกษุ 5 รูป [252]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุ 5 รูป
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " จกฺขุนา สํวโร สาธุ" เป็นต้น.

ภิกษุ 5 รูปรักษาทวารต่างกัน


ดังได้สดับมา บรรดาภิกษุ 5 รูปนั้น รูปหนึ่ง ๆ ย่อมรักษาทวาร
ทั้ง 5 มีจักษุทวารเป็นต้น รูปละทวารเท่านั้น.
ต่อมาวันหนึ่ง พวกเธอประชุมกันแล้ว เถียงกันว่า " ผมย่อม
รักษาทวารที่รักษาเขาได้ยาก, ผมย่อมรักษาทวารที่รักษาได้ยาก" แล้ว
กล่าวว่า " พวกเราทูลถามพระศาสดาแล้ว จักรู้เนื้อความนี้" จึงเข้าไป
เฝ้าพระศาสดา กราบทูลถามว่า " พระเจ้าข้า พวกข้าพระองค์รักษาทวาร
มีจักษุทวารเป็นต้นอยู่ ย่อมสำคัญว่า ' ทวารที่ตน ๆ รักษานั่นแล เป็น
สิ่งที่รักษาได้โดยยาก, บรรดาพวกข้าพระองค์ ใครหนอแล ? ย่อมรักษา
ทวารที่รักษาได้โดยยาก."

พระศาสดาทรงแก้ความเข้าใจผิดขอภิกษุ 5 รูป


พระศาสดาไม่ทรงยังภิกษุแม้รูปหนึ่งให้น้อยใจแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุ
ทั้งหลาย ทวารเหล่านั้นแม้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่รักษาได้โดยยากแท้; อีก
อย่างหนึ่งแล พวกเธอไม่สำรวมแล้วทวารทั้ง 5 ในบัดนี้เท่านั้น หา
มิได้, แม้ในกาลก่อน พวกเธอก็ไม่สำรวมแล้ว; ก็พวกเธอไม่ประพฤติ