เมนู

11. เรื่องเศรษฐีผู้ไม่บุตร [250]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภเศรษฐีผู้ชื่อว่า
อปุตตกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "หนนฺติ โภคา ทุมฺเมธํ " เป็นต้น.

ประวัติครั้งยังมีชีวิตของอปุตตกเศรษฐี


ดังได้สดับมา พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสดับการทำกาละของเศรษฐี
นั้นแล้ว จึงตรัสถามว่า " ทรัพย์สมบัติที่ไร้บุตร จะถึงแก่ใคร ?" ทรงสดับ
ว่า " ถึงแก่พระราชา " จึงให้นำทรัพย์จากเรือนของเศรษฐีนั้น มาสู่
ราชตระกูล (กินเวลาถึง) 7 วัน แล้วจึงเสด็จเข้าไปสู่สำนักพระศาสดา
เมื่อพระศาสดาตรัสว่า " ขอเชิญมหาบพิตร พระองค์เสด็จมาจากไหน
หนอ ? แต่ยังวัน " จึงกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐี
ในกรุงสาวัตถีนี้ ทำกาละเสียแล้ว. ข้าพระองค์นำทรัพย์สมบัติซึ่งไร้บุตร
นั้น ไปภายในราชสำนักแล้วจึงมา. "
เรื่องทั้งปวง พึงทราบตามนัยที่มาในพระสูตรนั่นแหละ.
เมื่อพระราชากราบทูลข้อความอย่างนี้ว่า "ได้ยินว่า เศรษฐีนั้น เมื่อ
เขานำโภชนะมีรสเลิศต่าง ๆ เข้าไปให้ด้วยถาดทอง ก็กล่าวว่า ' พวกมนุษย์
ย่อมกินโภชนะชื่อว่าเห็นปานนี้ (เทียวหรือ?), พวกเจ้าจะทำการเยาะเย้ย
กับเราในเรือนนี้หรือ ?" เมื่อเขาเข้าไปตั้งโภชนะไว้ให้ก็ประหาร (มนุษย์
เหล่านั้น ) ด้วยก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น ให้หนีไปแล้ว บริโภคข้าว
ปลายเกวียน มีน้ำผักดองเป็นที่ 2 ด้วยกล่าวว่า ' นี้จึงเป็นโภชนะของพวก
มนุษย์,' แม้เมื่อเขาเข้าไปตั้งผ้า ยาน และร่มที่น่าพอใจไว้ให้ ก็ประหาร

มนุษย์ (เหล่านั้น) ด้วยก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น ให้หนีไปแล้ว ทรง
ผ้าป่าน, มีร่มใบไม้อันทรงไว้ (ถือไว้) อยู่ ย่อมไปด้วยรถเก่า ๆ "
พระศาสดาจึงตรัสเล่าบุรพกรรมของอปุตตกเศรษฐีนั้นว่า :-

บุรพกรรมของอปุตตกเศรษฐี


" มหาบพิตร เรื่องเคยมีมาแล้ว คฤหบดีผู้เศรษฐีนั้น ต้อนรับ
พระปัจเจกพุทธเจ้านามว่าตครสิขี ด้วยบิณฑบาต, กล่าวว่า ' ท่านทั้งหลาย
จงให้บิณฑะแก่สมณะ' ดังนี้แล้ว ก็ลุกจากอาสนะหลีกไป. ได้ยินว่า เมื่อ
เศรษฐีนั้น ผู้ไม่มีศรัทธา ผู้โง่เขลา กล่าวอย่างนั้นแล้วหลีกไป ภรรยา
ของเขาผู้มีศรัทธาเลื่อมใส คิดว่า ' นานเทียวหนอ เราจึงได้ยินคำว่า
' จงให้ ' จากปากของเศรษฐีนี้, มโนรถของเรา จะเต็มในวันนี้, เรา
จักถวายบิณฑบาต' แล้วรับบาตรของพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้ให้เต็มด้วย
โภชนะอันประณีตแล้วถวาย. ฝ่ายเศรษฐีนั้นกลับมา เห็นพระปัจเจก-
พุทธเจ้านั้น จึงถามว่า "สมณะท่านได้อะไร ๆ แล้วหรือ " แล้วจับบาตร
เห็นบิณฑบาตอันประณีต ก็มีความเดือดร้อน จึงคิดอย่างนี้ว่า " พวกทาส
หรือพวกกรรมกรพึงกินบิณฑบาตนี้ ยังดีกว่า, เพราะว่า พวกเขา ครั้น
กินบิณฑบาตนี้แล้ว จักทำการงานให้เรา; ส่วนสมณะนี้ ครั้นไปกินแล้ว
ก็จักนอนหลับ; บิณฑบาตของเราฉิบหายเสียแล้ว" อนึ่ง เศรษฐีนั้นปลง
แล้วซึ่งบุตรน้อยคนหนึ่งของพี่ชายจากชีวิต เพราะเหตุแห่งทรัพย์สมบัติ.
ได้ยินว่า เด็กนั้นจับนิ้วมือของเศรษฐีนั้น เที่ยวไปอยู่กล่าวว่า " ยานนี้
เป็นของบิดาฉัน, โคนี้ก็ขอท่าน." ลำดับนั้น เศรษฐีคิดว่า " ในบัดนี้
เด็กนี้ยังกล่าวอย่างนี้ก่อน, ก็ในกาลที่เด็กนี้ถึงความเจริญแล้ว ใครจัก