เมนู

พ้นแล้ว ในเพราะธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา รู้เอง
แล้ว จะพึงอ้างใครเล่า ? (ว่าเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์)."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สพฺพาภิภู คือ ครอบงำธรรมอันเป็น
ไปในภูมิ 3 ได้ทั้งหมด.
บทว่า สพฺพวิทู คือ ผู้มีธรรมอันเป็นไปในภูมิ 4 ทั้งปวงอันรู้แล้ว.
สองบทว่า สพฺเพสุ ธมฺเมสุ ความว่า ผู้อันตัณหาและทิฏฐิ
ทั้งหลายฉาบทาไม่ได้ ในธรรมอันเป็นไปในภูมิ 3 แม้ทั้งสิ้น.
บทว่า สพฺพญฺชโห คือ ผู้ละธรรมอันเป็นไปในภูมิ 3 ทั้งหมด
ดำรงอยู่.
สองบทว่า ตณฺหกฺขเย วิมุตฺโต คือผู้พ้นแล้วในเพราะพระอรหัต
กล่าวคือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา ที่ตนให้เกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดแห่ง
ความสิ้นไปแห่งตัณหา ด้วยวิมุตติอันเป็นของพระอเสขะ.
สองบทว่า สยํ อภิญฺญาย คือรู้ธรรมต่างด้วยอภิญไญยธรรม
เป็นต้นได้เองทีเดียว.
บทว่า กมุทฺทิเสยฺยํ ความว่า เราจะพึงอ้างใครเล่าว่า " นี้เป็น
อุปัชฌาย์หรืออาจารย์ของเรา. "
ในกาลจบเทศนา อุปกาชีวก ไม่ยินดี ไม่คัดค้านพระดำรัสของ
พระตถาคตเลย, แต่เขาสั่นศีรษะ แลบลิ้น ยึดเอาทางที่เดินไปคนเดียว
ได้ไปยังที่เป็นที่อาศัยอยู่ของนายพรานแห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องอุปกาชีวก จบ.