เมนู

จึงกล่าวอย่างนั้นนั่นแล. บุตรเศรษฐีนั้นทราบความที่นางขับร้องปรารภ
ตน จึงถามว่า " หล่อนพูดหมายถึงฉันหรือ ?"
ภรรยา. จ้ะ ฉันพูดหมายถึงท่าน.
บุตรเศรษฐี. เมื่อเช่นนั้นฉันจักหนีละ.
นางกล่าวว่า " ก็จะประโยชน์อะไรของฉัน ด้วยท่านผู้หนีไปหรือ
มาแล้ว " ดังนี้แล้ว ก็ขับเพลงบทนั้นนั่นแลเรื่อยไป.
ได้ยินว่า นางอาศัยรูปสมบัติของตน และทรัพย์ซึ่งเป็นรายได้ จึง
มิได้เกรงใจบุตรเศรษฐีนั้น ในเรื่องอะไร ๆ.
บุตรเศรษฐีนั้น คิดอยู่ว่า "นางนี้ มีการถือตัวเช่นนี้ เพราะอาศัย
อะไรเล่าหนอ ?" ทราบว่า " เพราะอาศัยศิลปะ" จึงคิดว่า " ช่างเถิด,
เราก็จักเรียนศิลปะ " แล้วก็เข้าไปหาพ่อตา เรียนศิลปะอันเป็นความรู้ของ
พ่อตานั้น แสดงศิลปะ ในบ้านนิคมเป็นต้นอยู่ มาถึงกรุงราชคฤห์โดย
ลำดับ ให้ป่าวร้องว่า " ในวันที่ 7 แต่วันนี้ บุตรเศรษฐีชื่ออุคคเสน
จักแสดงศิลปะแก่ชาวพระนคร."

อุคคเสนแสดงศิลปะ


ชาวพระนคร ให้ผูกเตียงซ้อนๆ กันเป็นต้นแล้ว ประชุมกันใน
วันที่ 7.
ฝ่ายอุคคเสนนั้น ได้ขึ้นไปสู่ไม้แป้น (สูง) 60 ศอก ยืนอยู่บนปลาย
ไม้แป้นนั้น.
ในวันนั้น พระศาสดาทรงตรวจดูสัตวโลก ในเวลาใกล้รุ่ง ทรง
เห็นอุคคเสนนั้น เข้าไปในข่ายคือพระญาณของพระองค์ จึงทรงใคร่-