เมนู

5. เย ราครตฺตานุปตนฺติ โสตํ
สยํ กตํ มกฺกฏโกว ชาลํ
เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา
อนเปกฺขิโน สพฺพทุกฺขํ ปหาย.
" สัตว์ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะ ย่อมตกไปสู่กระ-
แสตัณหา เหมือนแมลงมุม ตกไปยังใยที่ตัวทำไว้
เองฉะนั้น. ธีรชนทั้งหลาย ตัดกระแสตัณหาแม้นั้น
แล้ว เป็นผู้หมดห่วงใย ละเว้นทุกข์ทั้งปวงไป."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า มกฺกฏโกว ชาลํ ความว่า เหมือน
อย่างว่า แมลงมุมทำข่ายคือใยแล้ว ก็นอนอยู่ในศูนย์ใยในที่ท่ามกลาง
แล้วก็รีบวิ่งไปฆ่าตั๊กแตนหรือตัวแมลง ที่ตกไปในริมสายใย สูบกินรส
ของมันแล้ว ก็กลับมานอนอยู่ในที่นั้นอย่างเดิมฉันใด; สัตว์ทั้งหลาย
เหล่าใด ผู้กำหนัดแล้วด้วยราคะ1 โกรธแล้วด้วยโทสะ2 หลงแล้วด้วยโมหะ,
สัตว์เหล่านั้นย่อมตกไปสู่กระแสตัณหาที่ตัวทำไว้เอง คือเขาไม่อาจเพื่อ
ก้าวล่วงกระแสตัณหานั้นไปได้ ฉันนั้นเหมือนกัน; กระแสตัณหา บุคคล
ล่วงได้ยากอย่างนี้.
บาทพระคาถาว่า เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา ความว่า บัณฑิต
ทั้งหลาย ตัดเครื่องผูกนั่นแล้ว เป็นผู้หมดห่วงใย คือไม่มีอาลัย ละทุกข
ทั้งปวงด้วยอรหัตมรรคแล้ว ก็เว้น คือไป.
1. ผู้อันราคะย้อมแล้ว. 2. อันโทสะประทุษร้ายแล้ว.