เมนู

แก้อรรถ


เนื้อความแห่งพระคาถานั้นว่า " บุคคลใด ชื่อว่ามีอาลัยดุจหมู่ไม้
อันตั้งอยู่ในป่าออกแล้ว เพราะความที่ตนละทิ้งหมู่ไม้อันตั้งอยู่ในป่า
กล่าวคืออาลัยในความเป็นคฤหัสถ์แล้วบวช น้อมไปในป่าคือตปะ กล่าว
คือวิหารธรรม เป็นผู้พ้นจากป่าคือตัณหา ซึ่งจัดเป็นเครื่องผูกคือการ
ครองเรือนแล้ว ยังแล่นไปหาป่าคือตัณหานั่นแหละ อันเป็นเครื่องผูกคือ
การครองเรือนนั้นอีก, ท่านทั้งหลายจงดูบุคคลนั้นอย่างนั้น; บุคคลนั่น
พ้นจากเครื่องผูกคือการครองเรือนแล้ว ยังแล่นไปสู่เครื่องผูกคือการ
ครองเรือนอีกทีเดียว.
เขานั่งฟังธรรมเทศนานี้ อยู่บนปลายหลาว ในระหว่างพวกราช-
บุรุษนั่นแล เริ่มตั้งความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแล้ว ยก (จิต) ขึ้นสู่
ไตรลักษณ์ พิจารณาอยู่ซึ่งสังขารทั้งหลายบรรลุโสดาปัตติผลแล้วเสวยสุข
เกิดแต่สมาบัติอยู่ เหาะขึ้นสู่เวหาสมาสู่สำนักพระศาสดาทางอากาศนั่นเอง
ถวายบังคมพระศาสดาแล้วบวช ได้บรรลุพระอรหัต ณ ท่ามกลางบริษัท
พร้อมด้วยพระราชานั่นเอง ดังนี้แล.
เรื่องวิพภันตกภิกษุ จบ.

4. เรื่องเรือนจำ [243]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภเรือนจำ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " น ตํ ทฬฺหํ " เป็นต้น.

พวกภิกษุเห็นโจรถูกจองจำนึกแปลกใจ


ดังได้สดับมา ในกาลครั้งหนึ่ง พวกราชบุรุษนำพวกโจร ผู้ตัดช่อง
ผู้ปล้นในหนทางเปลี่ยว และผู้ฆ่ามนุษย์เป็นอันมาก ทูลเสนอแด่พระเจ้า
โกศลแล้ว . พระราชารับสั่งให้จองจำโจรเหล่านั้นไว้ ด้วยเครื่องจองจำ
คือขื่อ เครื่องจองจำคือเชือก และเครื่องจองจำคือตรวนทั้งหลาย. พวก
ภิกษุชาวชนบท แม้มีประมาณ 30 รูปแล ใคร่จะเฝ้าพระศาสดา มา
เฝ้าถวายบังคมแล้ว ในวันรุ่งขึ้นเที่ยวไปในกรุงสาวัตถี เพื่อบิณฑบาต
ไปถึงเรือนจำเห็นโจรเหล่านั้น กลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปเฝ้าพระ-
ตถาคตเจ้าในเวลาเย็น กราบทูลถามว่า " พระเจ้าข้า วันนี้ พวกข้า
พระองค์กำลังเที่ยวไปบิณฑบาต เห็นโจรเป็นอันมากในเรือนจำ ถูก
จองจำด้วยเครื่องจองจำคือขื่อเป็นต้น เสวยทุกข์มาก พวกเขาย่อมไม่
อาจเพื่อจะตัดเครื่องจองจำเหล่านั้นหนีไปได้; ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขึ้น
ชื่อว่าเครื่องจองจำชนิดอื่น ที่มั่นคงกว่าเครื่องจองจำเหล่านั้น มีอยู่หรือ

เครื่องจองจำคือกิเลสตัดได้ยากยิ่ง


พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย เครื่องจองจำเหล่านั้นจะชื่อว่า
เครื่องจองจำอะไร; ส่วนเครื่องจองจำคือกิเลส กล่าวคือตัณหา ใน