เมนู

ได้เสด็จไปยังบ้านของเขา. เขานิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
ให้นั่งในเรือนซึ่งฉาบทาด้วยโคมัยสด ประดับด้วยสรรพาลังการแล้ว
อังคาสด้วยมธุปายาสข้น และด้วยขาทนียะอันประณีต.
ก็ในระหว่างแห่งภัตนั่นแหละ บุตร 4 คนของพราหมณ์นั่งใน
สำนักพระศาสดา กราบทูลว่า " ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
ประคับประคองบิดาของพวกข้าพระองค์ ไม่ประมาท, โปรดทอดพระเนตร
อัตภาพของท่านเถิด."

บำรุงมารดาบิดาเป็นมงคล


พระศาสดาตรัสว่า " ท่านทั้งหลายทำกรรมงามแล้ว, ชื่อว่าการเลี้ยง
มารดาบิดา โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย (เคย) ประพฤติมาแล้วเหมือนกัน "
แล้วตรัสมาตุโปสกนาคชาดก1 ในเอกาทสนิบาตนี้โดยพิสดารว่า " เพราะ
ช้างนั้นหลีกไปเสีย ต้นอ้อยช้างและไม้โมกมันจึงงอกขึ้นไสว" ดังนี้เป็นต้น
แล้วได้ทรงภาษิตพระคาถานี้ว่า :-
3. ธนปาลโก นาม กุญฺชโร
กฏุกปฺปเภทโน ทุนฺนิวารโย
พทฺโธ กพลํ น ภุญฺชติ
สุมรติ นาควนสฺส กุญฺชโร.
"กุญชร นามว่า ธนปาลกะ ตกมันจัด ห้ามได้
ยาก ถูกขังไว้ ไม่บริโภคฟ่อนหญ้า กุญชรระลึกถึง
(แต่) นาควัน2."

1. ขุ. ชา. 27/303. อรรถกถา. 6/1. 2. สุมรติ เป็นอีกรูปหนึ่ง ของสรติ. นาควนสฺส
แปลกันว่า ซึ่งป่าแห่งไม้กากะทิง เป็นฉัฏฐีวิภัตติลงในอรรถแห่งทุติยาวิภัตติ..