เมนู

อันเศร้าหมอง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยสถานที่พระองค์ประทับ
อยู่."
พระศาสดา ทรงทำปฏิสันถารกับเขาผู้นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้
ตรัสคำนี้ว่า " พราหมณ์ เพราะอะไรหนอแล ท่านจึงเป็นผู้เศร้าหมอง
มีผ้าห่มอันเศร้าหมอง ?"
พราหมณ์ทูลว่า " ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์มีบุตรอยู่
4 คนในโลกนี้, บุตรเหล่านั้น ถูกภรรยายุยง จึงขับข้าพระองค์ออกเสีย
จากเรือน."

พระศาสดาให้พราหมณ์เรียนคาถา


พระศาสดาตรัสว่า " พราหมณ์ ถ้ากระนั้น ท่านจงเรียนคาถา
เหล่านี้ เมื่อหมู่มหาชนประชุมกันในสภา, เมื่อบุตรทั้งหลาย (ของท่าน)
นั่งแล้ว จงกล่าวว่า:-
" ข้าพเจ้าจักเพลิดเพลินด้วยบุตรที่เกิดแล้วเหล่า
ใด, และปรารถนาความเจริญแก่บุตรเหล่าใด, บุตร
เหล่านั้นถูกภรรยายุยง1 ย่อมรุกรานข้าพเจ้าเหมือน
สุนัขรุกรานสุกรฉะนั้น. ได้ยินว่า บุตรเหล่านั้นเป็น
อสัตบุรุษ เลวทราม เรียกข้าพเจ้าว่า ' พ่อ พ่อ '
พวกเขาคือรากษส (มาแล้ว) โดยรูปเพียงดังบุตร
ย่อมทอดทิ้งข้าพเจ้าผู้ถึงความเสื่อม (แก่) บิดาแม่
ของเหล่าพาลชน เป็นคนแก่ ต้องเที่ยวขอทานที่เรือน
ของชนเหล่าอื่น เหมือนม้าที่แก่ใช้การงานไม่ได้ ถูก

1. บุตรเหล่านั้นคบคิดกับภรรยา ก็ว่า.

เขาพรากไปจากอาหารฉะนั้น. นัยว่า ไม้เท้าของ
ข้าพเจ้าแลยังประเสริฐกว่า, บุตรทั้งหลายไม่เชื่อฟัง
จะประเสริฐอะไร. (เพราะ) ไม้เท้ากันโคดุก็ได้, อนึ่ง
กันสุนัขก็ได้, มีไว้ (ยัน) ข้างหน้าเวลามืดก็ได้, (ใช้)
หยั่งลงไปในที่ลึกก็ได้, เพราะอานุภาพแห่งไม้เท้า
คนแก่เช่นข้าพเจ้า พลาดแล้วก็กลับยืนขึ้น (อีกได้)."

พราหมณ์ได้อุบายดี


เขาเรียนคาถาเหล่านั้น ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เมื่อ
พวกบุตรประดับประดาด้วยสรรพาลังการแล้ว ย่างเข้าไปสู่สภานั้น นั่ง
เหนืออาสนะที่ควรแก่ค่ามาก ในท่ามกลางพวกพราหมณ์ ในวันประชุม
พราหมณ์เห็นปานนั้น, ตกลงใจว่า " กาลนี้เป็นกาลของเราแล้ว" เข้า
ไปสู่ท่ามกลางสภา ชูมือขึ้นแล้วกล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าประสงค์
จะกล่าวคาถาแก่ท่านทั้งหลาย, ท่านทั้งหลายจักฟังไหม ?" เมื่อพราหมณ์
เหล่านั้นกล่าวว่า " กล่าวเถิด ๆ พราหมณ์ พวกเราจักฟัง," ได้ยืนกล่าว
เทียว.
ก็โดยสมัยนั้น มนุษย์ทั้งหลายมีวัตรอยู่อย่างนี้ว่า " บุตรใดใช้สอย
ทรัพย์ที่เป็นของมารดาบิดา (แต่) ไม่เลี้ยงมารดาบิดา. บุตรนั้นต้องถูกฆ่า."
เพราะฉะนั้น บุตรของพราหมณ์เหล่านั้น จึงฟุบลงแทบเท้าของบิดา
วิงวอนว่า " คุณพ่อขอรับ ขอคุณพ่อโปรดให้ชีวิตแก่พวกกระผมเถิด."
เพราะความที่หทัยของบิดาเป็นธรรมชาติอ่อนโยน เขาจึงกล่าวว่า " ท่าน