เมนู

ขอท่านจงกล่าวธรรมแก่พวกกระผมเถิด," พระโลฬุทายีเถระนั่งบนอาสนะ
แล้ว จับพัดอันวิจิตรสั่นอยู่, ไม่เห็นบทธรรม แม้บทหนึ่งพูดว่า " ฉัน
จักสวดสรภัญญะ, ขอภิกษุรูปอื่นจงกล่าวธรรมกถา" ดังนี้แล้ว ก็ลง (จาก
อาสนะ). มนุษย์พวกนั้น นิมนต์ภิกษุรูปอื่นให้กล่าวธรรมกถาแล้ว นิมนต์
พระโลฬุทายีขึ้นอาสนะอีก เพื่อต้องการสวดสรภัญญะ. พระโลฬุทายีนั้น
ไม่เห็นบทธรรมอะไร ๆ แม้อีก จึงพูดว่า " ฉันจักกล่าวในกลางคืน, ขอ
ภิกษุรูปอื่นจงสวดสรภัญญะ" แล้วก็ลง มนุษย์พวกนั้น นิมนต์ภิกษุรูป
อื่นให้สวดสรภัญญะแล้ว นำพระเถระมาในกลางคืนอีก. พระเถระนั้น ก็ยัง
ไม่เห็นบทธรรมอะไร ๆ แม้ในกลางคืน พูดว่า " ฉักจักกล่าวในเวลา
ใกล้รุ่งเทียว, ขอภิกษุรูปอื่นจงกล่าวในเวลากลางคืน" แล้วก็ลง. มนุษย์
พวกนั้น นิมนต์ภิกษุรูปอื่นให้กล่าวแล้วในเวลาใกล้รุ่ง ก็นำพระเถระนั้น
มาอีก. พระเถระนั้น แม้ในเวลาใกล้รุ่ง ก็มิได้เห็นบทธรรมอะไร ๆ.

พระเถระถูกมหาชนไล่ไปตกหลุมคูถ


มหาชน ถือวัตถุทั้งหลายมีก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น คุกคามว่า
"พระอันธพาล เมื่อพวกข้าพเจ้ากล่าวสรรเสริญพระสารีบุตรและพระโมค-
คัลลานะ ท่านพูดอย่างนั้นและอย่างนั้น, บัดนี้ เหตุไรจึงไม่พูด ?" ดังนี้แล้ว
ก็ติดตามพระเถระผู้หนีไป. พระเถระนั้นหนีไปตกลงในเวจกุฎีแห่งหนึ่ง.
มหาชนสนทนากันว่า "พระโลฬุทายี เมื่อถ้อยคำสรรเสริญคุณ
พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นไปอยู่ อวดอ้างประกาศความที่ตน
เป็นธรรมกถึก, เมื่อพวกมนุษย์ทำสักการะแล้ว พูดว่า ' พวกกระผมจะ
ฟังธรรม,' นั่งบนอาสนะถึง 4 ครั้ง ไม่เห็นบทธรรมอะไร ๆ ที่สมควร
จะพึงกล่าว ถูกพวกมนุษย์ถือวัตถุทั้งหลายมีก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น