เมนู

8. อลชฺชิตาเย ลชฺชนฺติ ลชฺชิตาเย น ลชุชเร
มิจฺฉาทิฏฺฐิสมาทานา สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.
อภเย ภยทสฺสิโน ภเย จ อภยทสฺสิโน
มิจฺฉาทิฏฺฐิสมาทานา สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.
" สัตว์ทั้งหลาย ย่อมละอายเพราะสิ่งอันไม่ควร
ละอาย ไม่ละอายเพราะสิ่งอันควรละลาย สมาทาน
มิจฉาทิฏฐิ ย่อมถึงทุคติ. สัตว์ทั้งหลาย มีปกติเห็น
ในสิ่งอันไม่ควรกลัวว่าควรกลัว และมีปกติเห็นใน
สิ่งอันควรกลัวว่าไม่ควรกลัว สมาทานมิจฉาทิฏฐิย่อม
ถึงทุคติ."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อลชฺชิตาเย ได้แก่ เพราะภาชนะภิกษา
อันไม่ควรละอาย. จริงอยู่ ภาชนะภิกษา ชื่อว่าสิ่งอันไม่ควรละอาย. ก็
สัตว์เหล่านั้น เมื่อปกปิดภาชนะภิกษานั้นแล้วเที่ยวไป ชื่อว่าย่อมละอาย
เพราะภาชนะภิกษาอันไม่ควรละอายนั้น.
บทว่า ลชฺชิตาเย ความว่า เพราะองค์อันยังหิริให้กำเริบอันไม่
ปกปิดแล้ว. จริงอยู่ องค์อันยังหิริให้กำเริบ ชื่อว่าสิ่งอันควรละอาย ก็
สัตว์เหล่านั้น เมื่อไม่ปกปิดองค์อันยังหิริให้กำเริบนั้นเที่ยวไป ชื่อว่าย่อม
ไม่ละอายเพราะสิ่งอันควรละอาย. เพราะเหตุนั้น เมื่อสัตว์เหล่านั้นละอาย
เพราะสิ่งอันไม่ควรละอายอยู่ ไม่ละอายเพราะสิ่งอันควรละอายอยู่. ชื่อว่า
เป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะภาวะคือความยึดถือเปล่า และเพราะภาวะคือความ
ยึดถือโดยประการอื่น, สัตว์เหล่านั้นสมาทานมิจฉาทิฏฐินั้นแล้วเที่ยวไปอยู่

ชื่อว่าสมาทานมิจฉาทิฏฐิ ย่อมถึงทุคติอันต่างโดยอบายมีนรกเป็นต้น.
บทว่า อภเย เป็นต้น ความว่า ภาชนะภิกษา ชื่อว่าสิ่งอันไม่ควร
กลัว เพราะกิเลสคือ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ และภัยคือทุจริตหา
เกิดขึ้นเพราะอาศัยภาชนะภิกษาไม่. ก็สัตว์ทั้งหลายปกปิดภาชนะนั้นเพราะ
ความกลัว ชื่อว่ามีปกติเห็นในสิ่งอันไม่ควรกลัวว่าควรกลัว. ก็องค์อันยัง
หิริให้กำเริบนั้น ชื่อว่าสิ่งอันควรกลัว เพราะกิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น
เกิดขึ้นเพราะอาศัยอันยังหิริให้กำเริบ. และเพราะไม่ปกปิดองค์อันยัง
หิริให้กำเริบ จึงชื่อว่า ผู้มีปกติเห็นในสิ่งอันควรกลัวว่าไม่ควรกลัว.
สัตว์ทั้งหลาย ชื่อว่าสมาทานมิจฉาทิฏฐิ เพราะค่าที่ตนสมาทานการยึดถือ
เปล่านั้น และการยึดถือโดยประการอื่น ย่อมถึงทุคติ.
ในกาลจบเทศนา พวกนิครนถ์เป็นอันมาก มีใจสังเวชแล้วบวช,
เทศนาสำเร็จประโยชน์แม้แก่บุคคลผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องนิครนถ์ จบ.

9. เรื่องสาวกเดียรถีย์ [231]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพวกสาวก-
เดียรถีย์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อวชฺเช " เป็นต้น.

บุตรพวกเดียรถีย์สอนบุตรไม่ให้ไหว้สมณะ


ความพิสดารว่า สมัยหนึ่งพวกสาวกอัญญเดียรถีย์ เห็นพวกลูก ๆ
ของตนพร้อมทั้งบริวาร เล่นอยู่กับพวกลูกของพวกอุบาสกผู้เป็นสัมมา-
ทิฏฐิ ในเวลาลูกเหล่านั้นมาเรือนแล้ว จึงต่างให้กระทำปฏิญาณว่า " สมณะ
พวกศากยบุตร พวกเจ้าไม่พึงไหว้, แม้วิหารของสมณะเหล่านั้น พวก
เจ้าก็ไม่พึงเข้าไป." วันหนึ่ง ลูกของพวกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น กำลัง
เล่นอยู่ในที่ใกล้แห่งซุ้มประตูนอกพระเชตวันวิหาร มีความระหายน้ำขึ้น.
ทีนั้น พวกเขาจึงส่งเด็กของอุบาสกคนหนึ่งไปสู่พระวิหาร สั่งว่า " เจ้าไป
ดื่มน้ำในวิหารนั้นแล้ว จงนำมาเพื่อพวกเราบ้าง." เด็กนั้นก็เข้าไปยัง
พระวิหาร ถวายบังคมพระศาสดาแล้วกราบทูลความข้อนั้น.

บุตรพวกเดียรถีย์นับถือพระพุทธศาสนา


ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสกะเด็กนั้นว่า " เจ้าเท่านั้น ดื่มน้ำแล้วไป
จงส่งแม้พวกเด็กนอกนี้มา เพื่อต้องการแก่การดื่มน้ำในที่นี้เทียว." เขา
ได้ทำอย่างนั่น. พวกเด็กเหล่านั้นมาดื่มน้ำแล้ว. พระศาสดารับสั่งให้หา
เด็กเหล่านั้นมาแล้ว ตรัสธรรมกถาที่สบายแก่เด็กเหล่านั้น ทรงทำเด็ก
เหล่านั้นให้มีศรัทธามั่นคงแล้ว ให้ตั้งอยู่ในสรณะและศีล. เด็กเหล่านั้น
ไปสู่เรือนของตน ๆ แล้ว แจ้งความนั้นแก่มารดาและบิดา. ครั้งนั้น
มารดาและบิดาของพวกเขา ถึงความโทมนัสปริเทวนาว่า " ลูกของพวก