เมนู

ตลอดกาลเป็นนิตย์ อันบุคคลหาได้ยาก; ธรรมดาว่าภิกษุ รักษาอัตภาพ
นั่นแหละ เหมือนกับพวกมนุษย์เหล่านั้นคุ้มครองนครฉะนั้น ย่อมควร "
ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
7. นครํ ยถา ปจฺจนตํ คุตฺตํ สนฺตรพาหิรํ
เอวํ โคเปถ อตฺตานํ ขโณ โว มา อุปจฺจคา
ขณาตีตา หิ โสจนฺติ นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.
" ท่านทั้งหลายควรรักษาตน เหมือนกับพวก
มนุษย์ป้องกัน ทั้งภายในและภายนอก
ฉะนั้น, ขณะอย่าเข้าไปล่วงท่านทั้งหลายเสีย; เพราะ
ว่าชนทั้งหลายผู้ล่วงเสียซึ่งขณะ เป็นผู้เบียดเสียด
กันในนรก เศร้าโศกอยู่. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สนฺตรพาหิรํ เป็นต้น ความว่า ภิกษุ
ทั้งหลาย ปัจจันตนครนั้น อันมนุษย์เหล่านั้นช่วยกันทำที่มั่นทั้งหลายมี
ประตูและกำแพงเป็นต้น ชื่อว่าทำให้มั่นในภายใน เขาทำที่มั่นทั้งหลาย
มีป้อมและคูเป็นต้น ชื่อว่าทำให้มั่นในภายนอก เพราะเหตุนั้นปัจจันตนคร
นั้น จึงเป็นเมืองที่พวกมนุษย์ทำให้มั่นทั้งภายในทั้งภายนอกรักษาแล้ว
ฉันใด; ก็พวกท่านจงเข้าไปตั้งสติไว้ จงปิดทวารทั้ง 6 อันเป็นภายใน ไม่
ปล่อยสติซึ่งรักษาทวาร ทำอายตนะภายใน 6 เหล่านั้นให้มั่น ด้วยการไม่
ถือเอาโดยประการที่อายตนะภายนอก 6 ซึ่งยึดถืออยู่ จะเป็นไปเพื่อขจัด
อายตนะภายในเสีย ไม่ละสติที่รักษาทวาร เพื่อไม่ให้อายตนะภายนอก
เหล่านั้นเข้าไปประพฤติอยู่ ชื่อว่ารักษาตนไว้ฉันนั้น.

บาทพระคาถาว่า ขโณ โว มา อุปจฺจคา ความว่า ก็ผู้ใดไม่
ปกครองตนอย่างนั้น, ขณะนี้แม้ทั้งสิ้น คือ " ขณะเป็นที่บังเกิดขึ้นแห่ง
พระพุทธเจ้านี้ ขณะบังเกิดในมัชฌิมประเทศ ขณะอันได้สัมมาทิฏฐิ ขณะ
ไม่ขาดแคลนแห่งอายตนะทั้ง 6 ประการ ย่อมก้าวล่วงเสียซึ่งบุคคลผู้นั้น;
ขณะนั้นจงอย่าก้าวล่วงท่านทั้งหลายไปเสีย.
บทว่า ขณาตีตา เป็นต้น ความว่า เพราะว่า บุคคลเหล่าใดล่วง
เสียซึ่งขณะนั้น, และขณะนั้นล่วงเสียซึ่งบุคคลเหล่านั้น; ชนเหล่านั้นเป็น
ผู้เบียดเสียดกันในนรก คือบังเกิดในนรกนั้นแล้ว เศร้าโศกอยู่.
ในกาลจบเทศนา ภิกษุเหล่านั้นเกิดความสังเวช ตั้งอยู่ในพระ-
อรหัตผลแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องอาคันตุกภิกษุ จบ.

8. เรื่องนิครนถ์ [230]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพวกนิครนถ์
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อลชฺชิตาเย " เป็นต้น.

พวกนิครนถ์โต้วาทะกับพวกภิกษุ


ความพิสดารว่า ในวันหนึ่งภิกษุทั้งหลายเห็นพวกนิครนถ์แล้ว
สนทนากันว่า " ผู้มีอายุ พวกนิครนถ์เหล่านี้ประเสริฐกว่าพวกชีเปลือย
ซึ่งไม่ปกปิดโดยประการทั้งปวง, (เพราะว่า) พวกนิครนถ์ที่ปกปิดแม้ข้าง
หน้าข้างเดียวเท่านั้น ก็เห็นจะเป็นผู้มีความละอาย (อยู่บ้าง)." พวก
นิครนถ์ฟังคำนั้นแล้ว กล่าวว่า " พวกเรา ย่อมปกปิดเพราะเหตุนั้น หามิได้
พวกเราปกปิดเพราะเหตุนี้ คือก็ละอองต่าง ๆ มีฝุ่นและธุลีเป็นต้นนั่นเทียว
เป็นของเนื่องด้วยชีวิตินทรีย์, เมื่อเป็นอย่างนั้น ละอองต่าง ๆ มีฝุ่นและ
ธุลีเป็นต้นเหล่านั้น อย่าตกลงในภาชนะภิกษาทั้งหลายของพวกเรา " ดังนี้
แล้ว ทำการพูดกับภิกษุเหล่านั้นอย่างมากมาย ด้วยสามารถแห่งการโต้-
ตอบวาทะกัน. ภิกษุทั้งหลายเข้าไปเฝ้าพระศาสดา กราบทูลเรื่องนั้น ใน
กาลที่ตนนั่งแล้ว.

ผู้สมาทานผิดย่อมถึงทุคติ


พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ชื่อว่าผู้ละอาย
ในสิ่งอันไม่ควรละอาย ไม่ละอายในสิ่งอันควรละอาย ย่อมเป็นผู้มีทุคติ
เป็นที่ไปในเบื้องหน้าแน่แท้ " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ทรง
ภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-