เมนู

3. เรื่องภิกษุผู้อยู่ที่ฝั่งแม่น้ำชื่อวัคคุมุทา [225]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อเสด็จอาศัยเมืองไพศาลี ประทับอยู่ในป่ามหาวัน
ทรงปรารภเหล่าภิกษุอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า
" เสยฺโย อโยคุโฬ " เป็นต้น.

พระศาสดาทรงติเตียนภิกษุเห็นแก่ท้อง


เรื่อง (มี) มาแล้วในอุตตริมนุสสธรรมปาราชิกสิกขาบทนั้นแล. ใน
กาลนั้นแล พระศาสดาตรัสกะพระภิกษุเหล่านั้นว่า " ภิกษุทั้งหลาย ก็
พวกเธอพากันกล่าวคุณแห่งอุตตริมนุสสธรรมของกันและกัน แก่พวก
คฤหัสถ์เพื่อประโยชน์แก่ท้องหรือ ? " เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ขอรับ
พระเจ้าข้า " ดังนี้แล้ว, ทรงติเตียนภิกษุเหล่านั้นโดยอเนกปริยาย แล้ว
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
3. เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต ตตฺโต อคฺคิสิขูปโม
ยญฺเจ ภุญฺเชยฺย ทุสฺสีโล รฏฺฐปิณฺฑํ อสญฺญโต.
" ก้อนเหล็กอันร้อนประหนึ่งเปลวไฟ ภิกษุ
บริโภคยังดีกว่า, ภิกษุผู้ทุศีล ไม่สำรวม บริโภค
ก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น จะประเสริฐอะไร ? "

บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า ยญฺเจ ภุญฺเชยฺย ความว่า ภิกษุ
ผู้ทุศีล คือผู้ไม่มีศีล ไม่สำรวมทางกายเป็นต้น ปฏิญญาตนว่า " เราเป็น
สมณะ " รับก้อนข้าวที่ชาวแว่นแคว้นถวายด้วยศรัทธา อันชื่อว่ารัฏฐ-
ปิณฑะอันใด แล้วพึงฉัน, ก้อนเหล็กอันร้อนมีสีประหนึ่งไฟ อันภิกษุ

บริโภคแล้ว ยังประเสริฐกว่า คือดีกว่านั้น. ถามว่า เพราะเหตุไร ?"
แก้ว่า เพราะอัตภาพอันเดียว พึงถูกไฟไหม้ เพราะการบริโภคก้อนเหล็ก
นั้นเป็นปัจจัย, แต่ผู้ทุศีลบริโภคก้อนข้าวที่เขาถวายด้วยศรัทธาพึงไหม้ใน
นรกตั้งหลายร้อยชาติ.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องภิกษุผู้อยู่ที่ฝั่งแม่น้ำชื่อวัคคุมุทา จบ.

4. เรื่องบุตรเศรษฐีชื่อเขมกะ [226]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภบุตรเศรษฐี
ชื่อเขมกะ ซึ่งเป็นหลานของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ตรัสพระธรรมเทศนา
นี้ว่า " จตฺตาริ ฐานานิ " เป็นต้น.

เขมกะเป็นนักเลงเจ้าชู้ ถูกจับถึง 3 ครั้ง


ดังได้สดับมา นายเขมกะนั้นเป็นผู้มีรูปสวย. โดยมากหญิงทั้งหลาย
เห็นเขาแล้ว ถูกราคะครอบงำ ไม่สามารถจะดำรงอยู่ตามภาวะของตนได้.
แม้เขาก็ได้เป็นผู้ยินดียิ่งในปรทารกรรม1เหมือนกัน.
ต่อมาในเวลากลางคืน พวกราชบุรุษจับเขานำไปแสดงแด่พระราชา.
พระราชามิได้ตรัสอะไรกะเขา ด้วยทรงดำริว่า " เราละอายต่อมหาเศรษฐี "
แล้วรับสั่งให้ปล่อยไป. ฝ่ายนายเขมกะนั้นก็มิได้งดเว้นเลย. ต่อมา (อีก)
พวกราชบุรุษก็จับเขาแล้วแสดงแต่พระราชาถึงครั้งที่ 2 ที่ 3. พระราชา
ก็รับสั่งให้ปล่อยเช่นเคย. มหาเศรษฐีทราบเรื่องนั้นแล้ว พาเขาไปสำนัก
พระศาสดา กราบทูลเรื่องนั้นแล้วทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอ
พระองค์โปรดแสดงธรรมแก่นายเขมกะนี้ "

พระศาสดาทรงแสดงโทษแห่งปรทารกรรม


พระศาสดาตรัสสังเวคกถาแก่เขาแล้ว เมื่อจะทรงแสดงโทษในการ
เสพภรรยาของคนอื่น ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
1. กรรมคือการคบหาซึ่งภรรยาของผู้อื่น.