เมนู

ทำความปรารถนาว่า " เจ้าเคี้ยวกินฟองไข่ทั้งหลายของเราตลอด 3 คราว
บัดนี้ ยังปรารถนาจะเคี้ยวกินเรา, เราเคลื่อนจากอัตภาพนี้แล้ว พึงได้
เพื่อเคี้ยวกินเจ้าพร้อมทั้งลูก " เคลื่อนจากอัตภาพนั้นแล้ว บังเกิดเป็น
นางเสือเหลือง.
ฝ่ายนางแมวนอกนี้ ทำกาละแล้วบังเกิดเป็นนางเนื้อ. ในเวลานาง
เนื้อนั้นคลอดแล้ว นางเสือเหลืองก็มาเคี้ยวกินนางเนื้อนั้นพร้อมด้วยลูก
ทั้งหลาย. สองสัตว์นั้นเคี้ยวกินอยู่อย่างนี้ ยังทุกข์ให้เกิดขึ้นแก่กันและกัน
ใน 500 อัตภาพ ในที่สุดนางหนึ่งเกิดเป็นยักษิณี, นางหนึ่งเกิดเป็น
กุลธิดาในเมืองสาวัตถี.
เบื้องหน้าแต่นี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวไว้แล้วในพระคาถาว่า
" น หิ เวเรน เวรานิ " เป็นอาทิ นั่นแล.
แต่ในเรื่องนี้ พระศาสดาตรัสว่า " ก็เวรย่อมระงับด้วยความไม่มี
เวร, ย่อมไม่ระงับด้วยเวร," ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่ชน
แม้ทั้งสองงจึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
2. ปรทุกขูปธาเนน โย อตฺตโน สุขมิจฺฉติ
เวรสํสคฺคสํสฏฺโฐ เวรา โส น ปริมุจฺจติ.

" ผู้ใด ย่อมปรารถนาสุขเพื่อตน เพราะก่อทุกข์
ในผู้อื่น, ผู้นั้น เป็นผู้ระคนด้วยเครื่องระคนคือเวร
ย่อมไม่พ้นจากเวรได้."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปรทุกฺขุปธาเนน ความว่า เพราะก่อ
ทุกข์ในผู้อื่น, อธิบายว่า เพราะยังทุกข์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น.