เมนู

3. เรื่องพระติสสเถระ [184]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ชื่อติสสเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อยสาว มลํ สมุฏฺฐิตํ"
เป็นต้น.

พระติสสะมอบผ้าสาฎกเนื้อหยาบให้พี่สาว


ดังได้สดับมา กุลบุตรชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ได้บรรพชาอุปสมบท
แล้ว ปรากฏชื่อว่า " พระติสสเถระ."
ในกาลต่อมา พระติสสเถระนั้นเข้าจำพรรษา ณ วิหารในชนบท,
ได้ผ้าสาฎกเนื้อหยาบประมาณ 8 ศอก จำพรรษา ปวารณาแล้ว, ถือผ้า
นั้นไปวางไว้ใกล้มือพี่สาว. พี่สาวนั้นดำริว่า " ผ้าสาฎกผืนนี้ไม่สมควร
แก่น้องชายเรา" แล้วตัดผ้านั้นด้วยมีดอันคม ทำให้เป็นชิ้นน้อยชิ้นใหญ่,
โขลกในครก แล้วสาง ดีด กรอ ปั่น ให้เป็นด้ายละเอียด ให้ทอเป็น
ผ้าสาฎกแล้ว.

พระเถระเตรียมจะตัดจีวร


ฝ่ายพระเถระ ก็จัดแจงด้ายและเข็ม, นิมนต์ภิกษุหนุ่มและสามเณร
ผู้ทำจีวรให้ประชุมกันแล้ว ไปยังสำนักพี่สาว พูดว่า " พี่จงให้ผ้าสาฎก
ผืนนั้นแก่ฉัน, ฉันจักให้ทำจีวร."
พี่สาวนั้น นำผ้าสาฎกประมาณ 9 ศอกออกมาวางไว้ใกล้มือของ
พระผู้น้องชาย. ท่านรับผ้าสาฎกนั้นมาพิจารณาแล้ว พูดว่า " ผ้าสาฎก
ของฉันเนื้อหยาบ ประมาณ 8 ศอก, ผืนนี้เนื้อละเอียด ประมาณ 9 ศอก,

ผ้ามิใช่ผ้าสาฎกของฉัน, นี่เป็นผ้าสาฎกของพี่, ฉันไม่ต้องการผ้าผืนนี้
พี่จงให้ผ้าสาฎกผืนนั้นแหละแก่ฉัน." พี่สาวตอบว่า " ท่านผู้เจริญ นี่เป็น
ผ้าของท่านทีเดียว, ขอท่านจงรับผ้านั้นเถิด." ท่านไม่ปรารถนาเลย.
ลำดับนั้น พี่สาวจึงบอกกิจที่ตนทำทุกอย่างแก่พระเถระนั้นแล้ว
ได้ถวายว่า " ท่านผู้เจริญ นั่นเป็นผ้าของท่านทีเดียว, ขอท่านจงรับผ้า
นั้นเถิด." ท่านถือผ้านั้นไปวิหาร เริ่มจีวรกรรม.

พระเถระห่วงใยในจีวร ตายแล้วเกิดเป็นเล็น


ลำดับนั้น พี่สาวของท่านจัดแจงวัตถุมียาคูและภัตเป็นต้น เพื่อ
ประโยชน์แก่ภิกษุสามเณรผู้ทำจีวรของพระติสสะนั้น. ก็ในวันที่จีวรเสร็จ
พี่สาวให้ทำสักการะมากมาย. ท่านแลดูจีวรแล้ว เกิดความเยื่อใยในจีวรนั้น
คิดว่า "ในวันพรุ่งนี้ เราจักห่มจีวรนั้น" แล้วพับพาดไว้ที่สายระเดียง,
ในราตรีนั้น ไม่สามารถให้อาหารที่ฉันแล้วย่อยไปได้ มรณภาพแล้ว เกิด
เป็นเล็นที่จีวรนั้นนั่นเอง.

พระศาสดารับสั่งไม่ให้แจกจีวร


ฝ่ายพี่สาว สดับการมรณภาพของท่านแล้ว ร้องไห้กลิ้งเกลือกใกล้
เท้าของพวกภิกษุ. พวกภิกษุทำสรีรกิจ (เผาศพ) ของท่านแล้วพูดกันว่า
" จีวรนั้นถึงแก่สงฆ์ทีเดียว เพราะไม่มีคิลานุปัฏฐาก, พวกเราจักแบ่งจีวร
นั้น" แล้วให้นำจีวรนั้นออกมา. เล่นวิ่งร้องไปข้างโน้นและข้างนี้ว่า
" ภิกษุพวกนี้แย่งจีวรอันเป็นของเรา."
พระศาสดาประทับนั่งในพระคันธกุฎีเทียว ทรงสดับเสียงนั้นด้วย