เมนู

พระเจ้าพิมพิสาร ทรงขนานเรือ 2 ลำ ให้ทำพลับพลา ให้ประดับ
ด้วยพวงดอกไม้เป็นต้น ปูลาดพุทธอาสน์สำเร็จด้วยรัตนะทุกอย่างไว้.
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนพุทธอาสน์นั้น. แม้ภิกษุทั้งหลายก็ขึ้นสู่
เรือ นั่งแวดล้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. พระราชาเมื่อตามส่งเสด็จลง
ไปสู่น้ำประมาณเพียงพระศอ กราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มี-
พระภาคเจ้าเสด็จมาตราบใด, หม่อมฉันจักอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำคงคานี้นั่นแหละ
ตราบนั้น" ส่งเรือไปแล้วก็เสด็จกลับ. พระศาสดาเสด็จไปในแม่น้ำคงคา
สิ้นทางไกลประมาณโยชน์หนึ่ง จึงถึงแดนของชาวเมืองไพศาลี.
เจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ทรงต้อนรับพระศาสดา ลุยน้ำประมาณเพียง
พระศอ นำเรือเข้ายังฝั่งแล้ว เชิญเสด็จพระศาสดาให้ลงจากเรือ. พอเมื่อ
พระศาสดาเสด็จขึ้นจากเรือเหยียบฝั่งแม่น้ำเท่านั้น, มหาเมฆตั้งขึ้นยังฝน
โบกขรพรรษให้ตกแล้ว. ในที่ทุก ๆ แห่ง น้ำประมาณเพียงเข่า เพียงขา
เพียงสะเอวเป็นต้น ไหลบ่าพัดพาเอาซากศพทั้งปวง ให้เข้าไปในแม่น้ำ
คงคาแล้ว. ภูมิภาคได้สะอาดแล้ว. เจ้าลิจฉวีทั้งหลายทูลให้พระศาสดา
ประทับอยู่ในที่โยชน์หนึ่ง ๆ ถวายมหาทานทำการบูชาให้เป็น 2 เท่า
นำเสด็จไปสู่เมืองไพศาลี โดย 3 วัน. ท้าวสักกเทวราชอันหมู่เทวดา
แวดล้อมได้เสด็จมาแล้ว. อมนุษย์ทั้งหลายหนีไปโดยมาก เพราะเทวดา
ทั้งหลายผู้มีศักดิ์ใหญ่ประชุมกันแล้ว.

น้ำมนต์แห่งพระปริตรมีอำนาจมาก


พระศาสดา ประทับยืนที่ประตูพระนครในเวลาเย็น ตรัสเรียก
พระอานนทเถระมาแล้ว ตรัสว่า "อานนท์ เธอจงเรียนรัตนสูตรนี้แล้ว
เที่ยวไปกับเจ้าลิจฉวีกุมารทั้งหลาย ทำพระปริตรในระหว่างกำแพง 3 ชั้น

ในเมืองไพศาลี." พระเถระเรียนรัตนสูตรที่พระศาสดาประทานแล้ว เอา
บาตรสำเร็จด้วยศิลาของพระศาสดาตักน้ำ ยืนอยู่ประตูพระนครแล้ว.
ระลึกถึงพระพุทธคุณของพระตถาคตเหล่านั้นทั้งหมด จำเดิมแต่ตั้งความ
เพียรไว้ว่า " พระบารมี 30 ถ้วน คือบารมี 10 อุปบารมี 10 ปรมัตถ-
บารมี 10 มหาบริจาค 5 จริยา 3 คือ โลกัตถจริยา 1 ญาตัตถจริยา 1
พุทธัตถจริยา 1 การก้าวลงสู่พระครรภ์ในภพที่สุด การประสูติ การเสด็จ
ออกมหาภิเนษกรมณ์ การทรงประพฤติความเพียร การชำนะมาร การ
แทงตลอดพระสัพพัญญุตญาณเหนือบัลลังก์ไม้โพธิ์ การยังพระธรรมจักร
ให้เป็นไป และพระโลกุตรธรรม 9 " แล้วเข้าไปยังพระนคร เที่ยวทำ
พระปริตรในระหว่างกำแพงทั้ง 3 ตลอด 3 ยามแห่งราตรี. เมื่อคำสักว่า
" ยงฺกิญฺจิ " เป็นต้น อันพระเถระนั้นกล่าวแล้วเท่านั้น, น้ำที่สาดขึ้นไป
เบื้องบนตกลงบนกระหม่อมของอมนุษย์ทั้งหลาย.
จำเดิมแต่การกล่าวคาถาว่า " ยานีธ ภูตานิ " เป็นต้น, หยาดน้ำ
เป็นราวกะว่าเทริดเงินพุ่งขึ้นในอากาศ แล้วตกลง ณ เบื้องบนแห่งมนุษย์
ทั้งหลายผู้ป่วย. มนุษย์ทั้งหลายหายโรคในทันใดนั่นเอง แล้วลุกขึ้นแวดล้อม
พระเถระ. ก็จำเดิมแต่บทว่า " ยงฺกิญฺจิ " เป็นต้น อันพระเถระกล่าว
แล้ว อมนุษย์ทั้งหลายถูกเมล็ดน้ำกระทบแล้ว ๆ ยังไม่หนีไปก่อน ที่อาศัย
กองหยากเยื่อและส่วนแห่งฝาเรือนเป็นต้น ก็หนีไปแล้วโดยประตูนั้น ๆ.
ประตูทั้งหลายไม่มีช่องว่างแล้ว. อมนุษย์เหล่านั้นเมื่อไม่ได้โอกาส ก็ทำลาย
กำแพงหนีไป. มหาชนประพรมท้องพระโรงในท่ามกลางพระนครด้วย
ของหอมทั้งปวง ผูกผ้าเพดานอันวิจิตรด้วยดาวทองเป็นต้นในเบื้องบน
ตกแต่งพุทธอาสน์ นำเสด็จพระศาสดามาแล้ว.

พระศาสดา ประทับนั่งบนอาสนะอันตกแต่งแล้ว. ทั้งภิกษุสงฆ์ ทั้ง
หมู่เจ้าลิจฉวีนั่งแวดล้อมพระศาสดาแล้ว. แม้ท้าวสักกเทวราชอันหมู่เทวดา
แวดล้อมแล้ว ได้ประทับยืนในโอกาสสมควร. ฝ่ายพระเถระเที่ยวไปสู่พระ-
นครทั้งสิ้นโดยลำดับแล้ว มากับมหาชนผู้หายโรค ถวายบังคมพระศาสดา
นั่งแล้ว พระศาสดาทรงตรวจดูบริษัทแล้ว ได้ทรงภาษิตรัตนสูตรนั้น
นั่นเอง. ในกาลจบเทศนา การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่สัตว์แปดหมื่นสี่พันแล้ว.
พระศาสดา ทรงแสดงรัตนสูตรนั้นเหมือนกันตลอด 7 วัน คือแม้
ในวันรุ่งขึ้น ก็ทรงแสดงอย่างนั้น ทรงทราบความที่ภัยทั้งปวงสงบแล้ว
ตรัสเตือนหมู่เจ้าลิจฉวีแล้ว เสด็จออกจากเมืองไพศาลี. เจ้าลิจฉวี
ทั้งหลายทรงทำสักการะทวีคูณ นำเสด็จพระศาสดาไปสู่ฝั่งแม่น้ำคงคา
โดย 3 วันอีก.

พวกพระยานาคทำการบูชาพระศาสดา


พระยานาคทั้งหลายผู้เกิดในแม่น้ำคงคา คิดว่ามนุษย์ทั้งหลายย่อมทำ
สักการะแด่พระตถาคต, เราทั้งหลายจะทำอะไรหนอ ?" พระยานาคเหล่า-
นั้นนิรมิตเรือสำเร็จด้วยทองคำ เงิน และแก้วมณี จัดตั้งบัลลังก์สำเร็จด้วย
ทองคำ เงิน และแก้วมณี ทำน้ำให้ดาดาษด้วยดอกปทุม 5 สี แล้วทูล
อ้อนวอนพระศาสดา เพื่อประโยชน์เสด็จขึ้นเรือของตน ๆ ว่า " ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์ทรงทำการอนุเคราะห์แม้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
เถิด." มนุษย์และนาคทั้งหลายย่อมทำการบูชาพระตถาคต.
เทวดาทั้งปวง ตั้งต้นแต่เทวดาผู้สถิต ณ ภาคพื้น ตลอดถึงพรหม-
โลกชั้นอกนิฏฐ์คิดว่า " พวกเราจะทำอะไรหนอ ?" แล้วทำสักการะ.
บรรดามนุษย์และอมนุษย์เหล่านั้น นาคทั้งหลายยกฉัตรซ้อน ๆ กันขึ้น