เมนู

ในที่นี้ควร" จึงให้สร้างศาลาแล้วคิดว่า "บัดนี้ เราจักทำการฉลองศาลา,"
จึงนิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ภิกษุทั้งหลายนั่งทั้งภายใน
ทั้งภายนอก ถวายทาน, ในเวลาเสร็จภัตกิจ รับบาตรพระศาสดา เพื่อ
ประโยชน์แก่การทรงอนุโมทนา แล้วกราบทูลเรื่องนั้นทั้งหมด จำเดิม
ตั้งแต่ต้นว่า " พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ยืนแลดูอยู่ในที่นี้ ในเวลาที่พวก
ภิกษุห่มจีวร, เห็นเหตุการณ์อย่างนี้ ๆ จึงให้สร้างสิ่งนี้ ๆ ขึ้น."

พระศาสดาทรงแสดงธรรม


พระศาสดาทรงสดับคำของเขาแล้ว ตรัสว่า " พราหมณ์ ธรรมดา
บัณฑิตทั้งหลายทำกุศลอยู่คราวละน้อย ๆ ทุก ๆ ขณะ, ย่อมนำมลทิน
คืออกุศลของตน ออกโดยลำดับทีเดียว" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถา
นี้ว่า :-
2. อนุปุพฺเพน เมธาวี โถกํ โถกํ ขเณ ขเณ
กมฺมาโร รชตสฺเสว นิทฺธเม มลมตฺตโน.
"ผู้มีปัญญา (ทำกุศลอยู่) คราวละน้อย ๆ ทุก ๆ
ขณะ โดยลำดับ พึงกำจัดมลทินของตนได้ เหมือน
ช่างทอดปัดเป่าสนิมทองฉะนั้น."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนุปุพฺเพน คือ โดยลำดับ, ผู้ประกอบ
ด้วยปัญญาอันรุ่งเรืองในธรรม ชื่อว่า เมธาวี.
สองบทว่า ขเณ ขเณ ความว่า ทำกุศลอยู่ทุก ๆ โอกาส.
บาทพระคาถาว่า กมฺมาโร รชตสฺเสว ความว่า บัณฑิตทำกุศล
อยู่บ่อย ๆ ชื่อว่าพึงกำจัดมลทิน คือกิเลสมีราคะเป็นต้นของตน, ด้วยว่า

เมื่อเป็นอย่างนั้น บัณฑิตย่อมเป็นผู้ชื่อว่ามีมลทินอันขจัดแล้ว คือไม่มีกิเลส
เหมือนช่างทองหลอมแล้วทุบทองครั้งเดียวเท่านั้น ย่อมไม่อาจไล่สนิมออก
แล้วทำเครื่องประดับต่าง ๆ ได้. แต่เมื่อหลอมทุบบ่อย ๆ ย่อมไล่สนิม
ออกได้, ภายหลัง ย่อมทำให้เป็นเครื่องประดับต่าง ๆ หลายอย่างได้
ฉะนั้น.
ในกาลจบเทศนา พราหมณ์ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว. เทศนา
ได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง จบ.

3. เรื่องพระติสสเถระ [184]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง
ชื่อติสสเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อยสาว มลํ สมุฏฺฐิตํ"
เป็นต้น.

พระติสสะมอบผ้าสาฎกเนื้อหยาบให้พี่สาว


ดังได้สดับมา กุลบุตรชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ได้บรรพชาอุปสมบท
แล้ว ปรากฏชื่อว่า " พระติสสเถระ."
ในกาลต่อมา พระติสสเถระนั้นเข้าจำพรรษา ณ วิหารในชนบท,
ได้ผ้าสาฎกเนื้อหยาบประมาณ 8 ศอก จำพรรษา ปวารณาแล้ว, ถือผ้า
นั้นไปวางไว้ใกล้มือพี่สาว. พี่สาวนั้นดำริว่า " ผ้าสาฎกผืนนี้ไม่สมควร
แก่น้องชายเรา" แล้วตัดผ้านั้นด้วยมีดอันคม ทำให้เป็นชิ้นน้อยชิ้นใหญ่,
โขลกในครก แล้วสาง ดีด กรอ ปั่น ให้เป็นด้ายละเอียด ให้ทอเป็น
ผ้าสาฎกแล้ว.

พระเถระเตรียมจะตัดจีวร


ฝ่ายพระเถระ ก็จัดแจงด้ายและเข็ม, นิมนต์ภิกษุหนุ่มและสามเณร
ผู้ทำจีวรให้ประชุมกันแล้ว ไปยังสำนักพี่สาว พูดว่า " พี่จงให้ผ้าสาฎก
ผืนนั้นแก่ฉัน, ฉันจักให้ทำจีวร."
พี่สาวนั้น นำผ้าสาฎกประมาณ 9 ศอกออกมาวางไว้ใกล้มือของ
พระผู้น้องชาย. ท่านรับผ้าสาฎกนั้นมาพิจารณาแล้ว พูดว่า " ผ้าสาฎก
ของฉันเนื้อหยาบ ประมาณ 8 ศอก, ผืนนี้เนื้อละเอียด ประมาณ 9 ศอก,