เมนู

10. เรื่องนางปฏาจารา [213]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภนางปฏาจารา
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " น สนฺติ ปุตฺตา " เป็นต้น.

ไม่มีใครต้านทานมัจจุได้


เรื่องข้าพเจ้ากล่าวพิสดารไว้แล้ว ในการพรรณนาพระคาถาใน
สหัสสวรรค ว่า:-
" ก็ผู้ใดไม่เห็นความเกิดและความเสื่อม พึงเป็น
อยู่สิ้น 100 ปี, ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้เห็นความ
เกิดและความเสื่อม ยังประเสริฐกว่าความเป็นอยู่
ของผู้นั้น. "

ก็ในกาลนั้น พระศาสดาทรงทราบนางปฏาจาราว่า มีความโศก
เบาบางแล้ว จึงตรัสว่า " ปฏาจารา ชื่อว่าปิยชนทั้งหลายมีบุตรเป็นต้น
ย่อมไม่สามารถเป็นผู้ต้านทานหรือป้องกัน ของบุคคลผู้ไปสู่ปรโลกได้.
เพราะฉะนั้น ชนเหล่านั้นแม้มีอยู่ ก็ชื่อว่าไม่มีแท้: อันการที่บัณฑิตชำระศีล
ให้หมดจดแล้ว ชำระหนทางเป็นที่ไปพระนิพพานเพื่อตนนั่นแล ย่อม
ควร " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้
ว่า :-
10. น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย น ปิตา นปิ พนฺธวา
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส นตฺถิ ญาตีสุ ตาณตา

เอตมตฺถวสํ ญตฺวา ปณฺฑิโต สีลสํวุโต
นิพฺพานคมนํ มคฺคํ ขิปฺปเม วิโสธเย.

"บัณฑิตทราบอำนาจเนื้อความว่า ' บุตรทั้งหลาย
ย่อมไม่มีเพื่อต้านทาน, บิดาและพวกพ้องทั้งหลาย
ก็ไม่มีเพื่อต้านทาน, เมื่อบุคคลถูกความตายครอบงำ
แล้ว, ความต้านทานในญาติทั้งหลายย่อมไม่มี,'
ดังนี้แล้ว เป็นผู้สำรวมในศีล พึงชำระทางเป็นที่ไป
พระนิพพานให้หมดจดพลันทีเดียว."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตาณาย ความว่า เพื่อความเป็นผู้ต้าน
ทาน คือเพื่อประโยชน์แก่ความเป็นที่พึ่ง.
ญาติและเพื่อนผู้ใจดีที่เหลือเว้นบุตรและมารดาบิดาเสีย ชื่อว่าพวก
พ้อง.
บทว่า อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส คือ ผู้ถูกความตายครอบงำ. จริงอยู่
ในปัจจุบันกาล ปิยชนทั้งหลาย มีบุตรเป็นต้น แม้เป็นผู้ต้านทานได้ ด้วย
การให้ข้าวและน้ำเป็นต้น และด้วยการช่วยกิจที่เกิดขึ้นแล้ว (แต่) ใน
เวลาตาย ชื่อย่อมไม่มีประโยชน์แก่การต้านทาน คือเพื่อประโยชน์แก่
การป้องกัน เพราะความเป็นผู้ไม่สามารถเพื่อกางกั้นความตาย โดยอุบาย
อะไร ๆ ได้; เพราะเหตุนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "นตฺถิ
ญาตีสุ ตาณตา."