เมนู

2. เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง [183]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์
คนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อนุปุพฺเพน เมธาวี"
เป็นต้น.

พราหมณ์ทำความเกื้อกูลแก่ภิกษุ


ดังได้สดับมา วันหนึ่ง พราหมณ์นั้นออกไปแต่เช้าตรู่, ได้ยืนแลดู
พวกภิกษุห่มจีวร ในที่เป็นที่ห่มจีวรของพวกภิกษุ. ก็ที่นั้นมีหญ้างอกขึ้น
แล้ว. ต่อมาภิกษุรูปหนึ่งห่มจีวรอยู่, ชายจีวรเกลือกกลั้วที่หญ้า เปียกด้วย
หยาดน้ำค้างแล้ว. พราหมณ์เห็นเหตุนนั้นแล้วคิดว่า " เราควรทำที่นี้ให้
ปราศจากหญ้า" ในวันรุ่งขึ้น ถือจอบไปถากที่นั้น ได้ทำให้เป็นที่เช่น
มณฑลลาน.
แม้ในวันรุ่งขึ้น เมื่อภิกษุมายังที่นั้น ห่มจีวรอยู่, พราหมณ์เห็น
ชายจีวรของภิกษุรูปหนึ่ง ตกไปบนพื้นดินเกลือกกลั้วอยู่ที่ฝุ่น จึงคิดว่า
" เราเกลี่ยทรายลงในที่นี้ควร" แล้วขนทรายมาเกลี่ยลง.

พราหมณ์สร้างมณฑปและศาลา


ภายหลังวันหนึ่ง ในเวลาก่อนภัตได้มีแดดกล้า. แม้ในกาลนั้น
พราหมณ์เห็นเหงื่อไหลออกจากกายของพวกภิกษุผู้กำลังห่มจีวรอยู่ จึงคิด
ว่า "เราให้สร้างมณฑปในที่นี้ควร" จึงให้สร้างมณฑปแล้ว.
รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ได้มีฝนพรำแต่เช้าตรู่. แม้ในกาลนั้น พราหมณ์
แลดูพวกภิกษุอยู่, เห็นพวกภิกษุมีจีวรเปียก จึงคิดว่า " เราให้สร้างศาลา

ในที่นี้ควร" จึงให้สร้างศาลาแล้วคิดว่า "บัดนี้ เราจักทำการฉลองศาลา,"
จึงนิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้ภิกษุทั้งหลายนั่งทั้งภายใน
ทั้งภายนอก ถวายทาน, ในเวลาเสร็จภัตกิจ รับบาตรพระศาสดา เพื่อ
ประโยชน์แก่การทรงอนุโมทนา แล้วกราบทูลเรื่องนั้นทั้งหมด จำเดิม
ตั้งแต่ต้นว่า " พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ยืนแลดูอยู่ในที่นี้ ในเวลาที่พวก
ภิกษุห่มจีวร, เห็นเหตุการณ์อย่างนี้ ๆ จึงให้สร้างสิ่งนี้ ๆ ขึ้น."

พระศาสดาทรงแสดงธรรม


พระศาสดาทรงสดับคำของเขาแล้ว ตรัสว่า " พราหมณ์ ธรรมดา
บัณฑิตทั้งหลายทำกุศลอยู่คราวละน้อย ๆ ทุก ๆ ขณะ, ย่อมนำมลทิน
คืออกุศลของตน ออกโดยลำดับทีเดียว" ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถา
นี้ว่า :-
2. อนุปุพฺเพน เมธาวี โถกํ โถกํ ขเณ ขเณ
กมฺมาโร รชตสฺเสว นิทฺธเม มลมตฺตโน.
"ผู้มีปัญญา (ทำกุศลอยู่) คราวละน้อย ๆ ทุก ๆ
ขณะ โดยลำดับ พึงกำจัดมลทินของตนได้ เหมือน
ช่างทอดปัดเป่าสนิมทองฉะนั้น."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนุปุพฺเพน คือ โดยลำดับ, ผู้ประกอบ
ด้วยปัญญาอันรุ่งเรืองในธรรม ชื่อว่า เมธาวี.
สองบทว่า ขเณ ขเณ ความว่า ทำกุศลอยู่ทุก ๆ โอกาส.
บาทพระคาถาว่า กมฺมาโร รชตสฺเสว ความว่า บัณฑิตทำกุศล
อยู่บ่อย ๆ ชื่อว่าพึงกำจัดมลทิน คือกิเลสมีราคะเป็นต้นของตน, ด้วยว่า