เมนู

9. เรื่องสัทธิวิหาริกของพระสารีบุตรเถระ [210]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภสัทธิวิหาริก
ของพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อุจฺฉินฺท " เป็นต้น.

มาณพบวชแล้วได้กัมมัฏฐานไม่ถูกอัธยาศัย


ได้ยินว่า บุตรของนายช่างทองคนหนึ่งมีรูปสวย บวชในสำนักของ
พระเถระแล้ว. พระเถระดำริว่า " พวกคนหนุ่ม มีราคะหนา" แล้วได้
ให้อสุภกัมมัฏฐานแก่ท่าน เพื่อกำจัดราคะ. แต่กัมมัฏฐานนั้นไม่เป็นที่สบาย
สำหรับท่าน; เพราะเหตุนั้น ท่านเข้าไปสู่ป่าแล้ว พยายามอยู่สิ้น 3 เดือน
ไม่ได้แม้ซึ่งคุณมาตรว่าความเป็นผู้มีจิตแน่แน่วแล้ว จึงมาสู่สำนักของ
พระเถระอีก, เมื่อพระเถระกล่าวว่า " ท่าน กัมมัฏฐานมาปรากฏแก่ท่าน
แล้วหรือ ?" จึงบอกความเป็นไปนั้น. ครั้งนั้น พระเถระกล่าว (กะท่าน)
ว่า "การถึงการปลงใจว่า ' กัมมัฏฐานไม่สำเร็จ,' ดังนี้ ย่อมไม่สมควร"
แล้วบอกกัมมัฏฐานนั้นแหละให้ดีขึ้นอีก แล้วได้ให้แก่ท่าน. แม้ในวาระ
ที่ 2 ท่านก็ไม่อาจยังคุณวิเศษอะไร ๆ ให้เกิดขึ้นได้ จึง (กลับ) มาบอก
แก่พระเถระ. แม้พระเถระบอกกัมมัฏฐานนั้นเอง ทำให้มีเหตุมีอุปมา.
ท่านก็มาบอกความที่กัมมัฏฐานไม่สำเร็จแม้อีก. พระเถระคิดว่า " ภิกษุ
ผู้ทำ (ความเพียร) ย่อมทราบนิวรณธรรม มีความพอใจในกามเป็นต้น
ซึ่งมีอยู่ในตนว่า ' มีอยู่ ' และที่ไม่มีว่า ' ไม่มี; ' ก็ภิกษุแม้นี้ เป็นผู้ทำ
(ความเพียร) มิใช่เป็นผู้ไม่ทำ, เป็นผู้ปฏิบัติ มิใช่เป็นผู้ไม่ปฏิบัติ; แต่
เราไม่รู้อัธยาศัยของภิกษุนั่น, ภิกษุนั่นจักเป็นผู้อันพระพุทธเจ้าพึงแนะ

นำ " จึงพาท่านเข้าไปเฝ้าพระศาสดาในเวลาเย็น แล้วกราบทูลความเป็น
ไปนั้นทั้งหมดว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้เป็นสัทธิวิหาริกของ
ข้าพระองค์, ข้าพระองค์ให้กัมมัฏฐานชื่อนี้แก่ภิกษุนี้ ด้วยเหตุนี้."

พระศาสดาประทานกัมมัฏฐานที่เหมาะแก่ภิกษุนั้น


ครั้งนั้น พระศาสดาตรัสกะพระเถระนั้นว่า " ชื่อว่าอาสยานุสยญาณ
นั่น ย่อมมีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้บำเพ็ญบารมีแล้ว ยังหมื่นโลกธาตุ
ให้บันลือแล้ว ถึงความเป็นพระสัพพัญญูนั่นแล" แล้วทรงรำพึงอยู่ว่า
" ภิกษุนี้บวชจากสกุลไหนหนอแล ?" ทรงทราบว่า " จากสกุลช่างทอง,
ทรงพิจารณาอัตภาพที่ล่วงมาแล้ว ทรงเห็นอัตภาพ 500 ของภิกษุนั้น
อันเกิดโดยลำดับเฉพาะในสกุลช่างทอง แล้วทรงดำริว่า " ภิกษุหนุ่มนี้
ทำหน้าที่ช่างทองอยู่ตลอดกาลนาน หลอมแต่ทองมีสีสุกอย่างเดียว ด้วย
คิดว่า ' เราจักทำให้เป็นดอกกรรณิการ์และดอกปทุมเป็นต้น. อสุภปฏิกูล
กัมมัฏฐานไม่เหมาะแก่ภิกษุหนุ่มนี้, กัมมัฏฐานที่พอใจเท่านั้น จึงจะเป็น
กัมมัฏฐานที่สบายแก่เธอ" จึงตรัสว่า " สารีบุตร เธอจักเห็นภิกษุที่เธอ
ให้กัมมัฏฐาน ลำบากแล้วตลอด 4 เดือน บรรลุพระอรหัตในภายหลังภัต
ในวันนี้นั่นแหละ เธอไปเถิด" ดังนี้แล้ว ทรงส่งพระเถระไป ทรง
นิรมิตดอกปทุมทอง ประมาณเท่าจักรด้วยพระฤทธิ์ แล้วทรงทำให้
เป็นเหมือนหลั่งหยาดน้ำจากใบและก้าน แล้วได้ประทานให้ด้วยพระดำรัส
ว่า " เอาเถิด ภิกษุ เธอจงถือเอาดอกปทุมนี้ไปวางไว้ที่กองทรายที่ท้าย
วิหาร นั่งขัดสมาธิในที่ตรงหน้า แล้วทำบริกรรมว่า 'โลหิตกํ โลหิตกํ '
(สีแดง สีแดง). เมื่อภิกษุนั้นรับดอกปทุมจากพระหัตถ์ของพระศาสดาเท่า
นั้น, จิตก็เลื่อมใสแล้ว, ท่านไปยังท้ายวิหารพูนทรายขึ้นแล้ว เสียบก้าน