เมนู

6. เรื่องพระเถระแก่ [209]



ข้อความเบื้องต้น



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุแก่
หลายรูป ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " วนํ ฉินฺทถ " เป็นต้น.

พวกกุฏุมพีละฆราวาสออกบวช


ได้ยินว่า ภิกษุเหล่านั้นในเวลาเป็นคฤหัสถ์เป็นกุฎุมพี เป็นผู้
มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก ในกรุงสาวัตถี เป็นสหายกันและกัน ทำบุญร่วมกัน
ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว คิดว่า " พวกเราเป็นคนแก่,
ประโยชน์อะไรด้วยการอยู่ครองเรือนของพวกเรา" ดังนี้แล้ว ทูลขอ
บรรพชากะพระศาสดา บวชแล้ว, แต่เพราะความเป็นคนแก่ ไม่สามารถ
เล่าเรียนธรรมได้ จึงให้คนสร้างบรรณศาลาไว้ในที่สุดวิหาร แล้วอยู่รวม
กัน, แม้เมื่อเที่ยวไปบิณฑบาต โดยมากก็ไปเรือนของบุตรและภรรยา
นั่นแหละแล้วฉัน.

พวกภิกษุแก่ร้องไห้รำพันถึงอุบาสิกา


ในภิกษุเหล่านั้น ภิกษุรูปหนึ่งมีภรรยาเก่าชื่อว่านางมธุรปาณิกา.
นางได้มีอุปการะแก่ภิกษุเหล่านั้นแม้ทุกรูป; เพราะฉะนั้น ภิกษุแม้ทุกรูป
ถืออาหารที่ตนได้แล้ว ไปนั่งฉันที่เรือนของนางนั่นแหละ. ฝ่ายนางก็ถวาย
แกงและกับแก่ภิกษุเหล่านั้น ตามที่ตนจัดไว้.
นางอันอาพาธชนิดใดชนิดหนึ่งถูกต้องแล้ว ได้ทำกาละแล้ว. ลำดับ
นั้น พระเถระแก่เหล่านั้นประชุมกันในบรรณศาลาของพระเถระผู้สหาย

กอดคอกันและกันร้องไห้รำพันอยู่ว่า " อุบาสิกาผู้มีรสมืออันอร่อยทำกาละ
เสียแล้ว." และอันภิกษุทั้งหลายวิ่งเข้าไปโดยรอบ แล้วถามว่า " นี่เรื่อง
อะไรกัน ? ท่าน " จึงกล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ ภรรยาเก่าของสหายของ
พวกผมทำกาละเสียแล้ว, นางเป็นผู้มีอุปการะแก่พวกผมเหลือเกิน, บัดนี้
พวกผมจักได้ผู้เห็นปานนั้นแต่ไหน, พวกผมร้องไห้เพราะเหตุนี้."

พระศาสดาตรัสกากชาดกแก่ภิกษุทั้งหลาย


ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมแล้ว. พระศาสดาเสด็จมาแล้ว
ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยเรื่องอะไรหนอ ?
ในบัดนี้ " เมื่อพวกภิกษุกราบทูลว่า " ด้วยเรื่องชื่อนี้ " จึงตรัสว่า
" ภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น, แม้ในกาลก่อน เมื่อนางมธุร-
ปาณิกานั้นเกิดในกำเนิดกา เที่ยวไปริมฝั่งสมุทร ถูกลูกคลื่นสมุทร (ซัด)
เข้าไปสู่สมุทรให้ตายแล้ว ภิกษุเหล่านั้น (เกิด) เป็นกา ร้องไห้ร่ำไรแล้ว,
คิดว่า ' พวกเราจักนำนางกานั้นไป,' จึงพากันวิดมหาสมุทรด้วยจะงอยปาก
ลำบากแล้ว." ทรงนำอดีตนิทานมาแล้ว ตรัสกาก1 ชาดกให้พิสดารว่า :-
" เออก็ คางของพวกเราล้าแล้ว, และปากซีด,
พวกเราจงงดเสียเถิด พวกเรา (วิดต่อไปก็) ไม่
สำเร็จ, เพราะห้วงน้ำใหญ่ยังเต็มอยู่อย่างเดิม."

แล้วตรัสเรียกภิกษุเหล่านั้นมา ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ
อาศัยป่า คือราคะ โทสะ และโมหะ จึงถึงทุกข์นี้, การที่พวกเธอตัดป่า
นั้นเสีย ควร, พวกเธอจักเป็นผู้หมดทุกข์ได้ด้วยอาการอย่างนั้น" แล้ว
ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า:-
1. ขุ. ชา. เอก. 27/42 อรรถกถา. 2/533.