เมนู

เชื่อต่อเรา, ความไม่เชื่อนั้น พึงมีกรรมมิใช่ประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนเหล่า
นั้น, บัดนี้เราได้โมคคัลลานะเป็นพยาน จึงกล่าว, โมคคัลลานะพูดจริง
ภิกษุทั้งหลาย."
ภิกษุทั้งหลายฟังเรื่องนี้แล้ว ทูลถามพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ก็บุรพกรรมของเปรตนั้นเป็นอย่างไร ?" พระศาสดาตรัสว่า
" ถ้าอย่างนั้น พวกเธอจงฟังเถิด ภิกษุทั้งหลาย" แล้วทรงนำอดีตนิทาน
มา ตรัสบุรพกรรมของเปรตนั้น (ดังต่อไปนี้) :-

บุรพกรรมของสูกรเปรต


ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป พระเถระ
2 รูปพร้อมเพรียงกันในอาวาสใกล้หมู่บ้านตำบลหนึ่ง. ในพระ 2 รูปนั้น
รูปหนึ่งมีพรรษา 60, รูปหนึ่งมีพรรษา 59, รูปที่มีพรรษา 59 นั้น
ถือบาตรและจีวรของพระเถระนอกนี้เที่ยวไป, ได้ทำวัตรปฏิบัติทุกอย่าง
เหมือนสามเณร. เมื่อพระเถระทั้งสองนั้นอยู่พร้อมเพรียงกัน ดุจพี่น้อง
ที่อยู่ในท้องมารดาเดียวกัน, พระธรรมกถึกรูปหนึ่งมาสู่ที่อยู่ (ของพระ-
เถระทั้งสอง) แล้ว ก็กาลนั้น เป็นวันธัมมัสสวนะ. พระเถระทั้งสอง
สงเคราะห์พระธรรมกถึกแล้วพูดว่า " ท่านสัตบุรุษ ขอท่านจงกล่าว
ธรรมกถาแก่พวกผมเถิด. " พระธรรมกถึกนั้น ก็กล่าวธรรมกถาแล้ว.
พระเถระทั้งสองมีจิตยินดีว่า " พวกเราได้พระธรรมกถึกแล้ว " รุ่งขึ้น
พาท่านเข้าไปบิณฑบาตยังบ้านใกล้เคียง ทำภัตกิจเสร็จในบ้านนั้นแล้ว
กล่าวว่า " ท่านผู้มีอายุ ขอท่านจงกล่าวธรรมกถาหน่อยหนึ่งจากที่ที่ได้พัก
ไว้ในวันวาน" แล้วนิมนต์ให้ท่านกล่าวธรรมแก่พวกมนุษย์. พวกมนุษย์
ฟังธรรมกถาแล้ว นิมนต์แม้เพื่อต้องการ (ให้ฉัน) ในวันรุ่งขึ้น. พระ-