เมนู

3. เรื่องพระปธานกัมมิกติสสเถระ [206]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระปธาน-
กัมมิกติสสเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "อุฏฺฐานกาลมฺหิ" เป็นต้น.

พวกภิกษุประสงค์จะกราบทูลคุณที่ตนได


ได้ยินว่า กุลบุตรชาวกรุงสาวัตถีประมาณ 500 คน บวชในสำนัก
พระศาสดา เรียนกัมมัฏฐานแล้วได้ไปสู่ป่า. บรรดาภิกษุเหล่านั้น รูปหนึ่ง
พักอยู่ในที่นั้นเอง. ที่เหลือทำสมณธรรมอยู่ในป่า บรรลุพระอรหัต คิด
ว่า " พวกเราจักกราบทูลคุณอันตนได้แล้วแด่พระศาสดา" ได้ (กลับ)
ไปยังกรุงสาวัตถีอีก. อุบาสกคนหนึ่ง เห็นภิกษุเหล่านั้นผู้เที่ยวบิณฑบาต
อยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง ในที่ประมาณโยชน์หนึ่งแต่กรุงสาวัตถี จึงต้อนรับ
ด้วยวัตถุทั้งหลายมียาคูและภัตเป็นต้น ฟังอนุโมทนาแล้ว จึงนิมนต์เพื่อ
ประโยชน์แก่การฉันในวันรุ่งขึ้น.
ภิกษุเหล่านั้น ไปถึงกรุงสาวัตถีในวันนั้นเอง เก็บบาตรและจีวร
ไว้แล้ว ในเวลาเย็นเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมนั่งอยู่แล้ว. พระ-
ศาสดา ทรงแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับด้วยภิกษุเหล่านั้น ได้ทรงทำการ
ต้อนรับแล้ว.

ความไม่รู้จักกาลให้เกิดความเดือดร้อน


ขณะนั้น ภิกษุสหายแห่งภิกษุเหล่านั้น ผู้ยังเหลืออยู่ในที่นั้น
คิดว่า " เมื่อพระศาสดาทรงทำการต้อนรับภิกษุเหล่านั้น พระโอษฐ์ย่อม
ไม่พอ (จะตรัส), แต่หาตรัสปราศรัยกับด้วยเราไม่ เพราะมรรคและผล

ของเราไม่มี, ในวันนี้แหละเราบรรลุพระอรหัตแล้ว จักให้พระศาสดา
ตรัสปราศรัยกับด้วยเรา." ภิกษุแม้เหล่านั้นทูลลาพระศาสดาว่า " พวก
ข้าพระองค์อันอุบาสกคนหนึ่ง ในหนทางเป็นที่มา นิมนต์เพื่อฉันเช้าใน
วันพรุ่งนี้ จักไปในที่นั้นแต่เช้าเทียว." ลำดับนั้น ภิกษุผู้สหายแห่งภิกษุ
เหล่านั้น เดินจงกรมตลอดคืนยังรุ่ง ล้มลงที่แผ่นหินแผ่นหนึ่งในที่สุด
จงกรม ด้วยอำนาจแห่งความหลับ. กระดูกขาแตกแล้ว. เธอร้องด้วย
เสียงดัง.
พวกภิกษุผู้เป็นสหายเหล่านั้นของเธอจำเสียงได้ ต่างวิ่งเข้าไปข้าง
โน้นและข้างนี้. เมื่อภิกษุเหล่านั้น ตามประทีปทำกิจที่ควรทำแก่ภิกษุนั้น
อยู่นั่นแล, อรุณขึ้นแล้ว. ภิกษุเหล่านั้นไม่ได้โอกาสไปบ้านนั้น.

ทรงแสดงชาดกในเรื่องไม่รู้จักกาล


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะภิกษุเหล่านั้นว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวก
เธอไม่ไปสู่บ้าน เป็นที่เที่ยวภิกษาหรือ ? ภิกษุเหล่านั้น ทูลรับว่า " อย่าง
นั้น พระเจ้าข้า " แล้วกราบทูลเรื่องนั้น. พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุนั่นทำอันตรายลาภของพวกเธอในบัดนี้เท่านั้นหามิได้, แม้
ในกาลก่อน เธอก็ได้ทำแล้วเหมือนกัน" อันภิกษุเหล่านั้นทูลวิงวอน
แล้ว ทรงนำอดีตนิทานมา ตรัสชาดก1ให้พิสดารว่า:-
" บุคคลใด ย่อมปรารถนาจะทำกิจที่ควรทำก่อน
ไว้ (ทำ) ภายหลัง, บุคคลนั้น ย่อมเดือดร้อนภาย-
หลัง, เหมือนมาณพผู้หักกิ่งไม้กุ่มฉะนั้น."

1. ขุ. ชา. 27/23. อรรถกถา. 2/119. วรุณชาดก.