เมนู

เศรษฐี. แน่ะพ่อ เมื่อเรากล่าวคำมีประมาณเท่านี้. เจ้าก็ได้ทำการ
ตัดเห็นปานนี้. เราไม่อาจจะกล่าวอะไร ๆ กับ เจ้าผู้อยู่ในเรือนได้เลย. เรา
ไม่มีกิจเกี่ยวด้วยเจ้าผู้จะอยู่ในเรือน. เราอดโทษให้เเก่เจ้า, ไปเถิด พ่อ
โจรครั้นทำกรรมนั้นแล้ว ในกาลสิ้นอายุ บังเกิดแล้วในอเวจี
ไหม้ในอเวจีสิ้นกาลนาน ในกาลบัดนี้ เกิดเป็นอชครเปรต ถูกไฟไหม้
อยู่ที่เขาคิชฌกูฏ ด้วยวิบาก [แห่งกรรม] ที่ยังเหลือ.
พระศาสดา ครั้นตรัสบุรพกรรมของเปรตนั้นอย่างนี้แล้ว จึง
ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาคนพาล ทำกรรมอันลามกอยู่ ย่อมไม่
รู้. แต่ภายหลัง เร่าร้อนอยู่เพราะกรรมอันตนทำแล้ว ย่อมเป็นเช่นกับ
ไฟไหม้ป่า ด้วยตนของตนเอง " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดง
ธรรม จึงได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
6. อถ ปาปานิ กมฺมานิ กรํ พาโล น พุชฺฌติ
เสหิ กมฺเมหิ ทุมฺเมโธ อคฺคิหฑฺโฒว ตปฺปติ.
" อันคนพาล ทำกรรมทั้งหลายอันลามกอยู่ ย่อม
ไม่รู้ (สึก) บุคคลมีปัญญาทราม ย่อมเดือดร้อน ดุจ
ถูกไฟไหม้ เพราะกรรมของตนเอง. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อถ ปาปานิ ความว่า คนพาลหาใช่ทำ
บาปทั้งหลายด้วยสามารถแห่งความโกรธอย่างเดียวไม่, แม้ทำอยู่ก็ไม่รู้สึก.
แต่เมื่อทำบาปอยู่ จะชื่อว่า ไม่รู้ว่า " เราทำบาป " ย่อมไม่มี.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า " ย่อมไม่รู้ เพราะความไม่รู้ว่า " ผล
ของกรรมนี้ มีชื่อเห็นปานนี้."

บทว่า เสหิ ความว่า เพราะกรรมอันเป็นของตนเหล่านั้น.
บทว่า ทุมฺเนโธ ความว่า บุคคลผู้มีปัญญาทราม เกิดในนรกย่อม
เดือดร้อน เหมือนถูกไฟไหม้.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมาก ได้บรรลุอริยผลทั้งหลาย มี
โสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องอชครเปรต จบ.

7. เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ [113]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภพระมหา-
โมคคัลลานเถระ. ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โย ทณฺเฑน อทณฺเฑสุ "
เป็นต้น.

พวกเดียรถีย์คิดหาอุบายฆ่าท่าน


ความพิสดารว่า ในสมัยหนึ่ง พวกเดียรถีย์ประชุมกัน คิดว่า " ท่าน
ผู้มีอายุ ท่านทั้งหลายทราบหรือ ? ด้วยเหตุไร ลาภสักการะ จึงเกิดขึ้น
เป็นอันมากแก่พระสมณโคดม ? เดียรถีย์พวกหนึ่งกล่าวว่า " พวกข้าพเจ้า
ไม่ทราบ ส่วนพวกท่านทราบหรือ ? " เดียรถีย์ที่รู้เรื่องก็พากันตอบว่า
ขอรับ พวกข้าพเจ้าทราบ ลาภและสักการะเกิดขึ้นเพราะอาศัยพระเถระ
รูปหนึ่ง ชื่อมหาโมคคัลลานะ เพราะพระเถระนั้น ไปเทวโลก ถาม
กรรมที่พวกเทวดาทำแล้ว ก็กลับมาบอกกับพวกมนุษย์ว่า ' ทวยเทพทำ
กรรมชื่อนี้ ย่อมได้สมบติเห็นปานนี้.' แม้ไปนรก ก็ถามกรรมของหมู่
สัตว์ผู้เกิดในนรกแล้วกลับมาบอกพวกมนุษย์ว่า 'พวกเนรยิกสัตว์ทำกรรม
ชื่อนี้ ย่อมเสวยทุกข์เห็นปานนี้.' พวกมนุษย์ได้ฟังถ้อยคำของพระเถระ
นั้นแล้ว ย่อมนำลาภสักการะเป็นอันมากไป (ถวาย). ถ้าพวกเราจักสามารถ
ฆ่าพระเถระนั้นได้ไชร้. ลาภและสักการะนั้น ก็จักเกิดแก่พวกเรา. "

เดียรถีย์จ้างพวกโจรฆ่าพระเถระ


เดียรถีย์เหล่านั้นต่างรับรองว่า " อุบายนี้ใช้ได้ " ทุกคนเป็นผู้มี
ฉันทะอันเดียวกัน ตกลงกันว่า " พวกเราจักทำกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง