เมนู

เหมือนกัน. แต่เราไม่พูด เพราะคิดเห็นว่า ' ก็แลชนเหล่าใดไม่พึงเชื่อ
คำของเรา ความไม่เชื่อนั้นของคนเหล่านั้น พึงเป็นไปเพื่อหาประโยชน์
เกื้อกูลมิได้ ' บัดนี้ เราได้โมคคัลลานะเป็นพยานแล้วจึงพูดได้." อัน
ภิกษุทั้งหลายทูลถามบุรพกรรมของเปรตนั้นแล้ว จึงทรงพยากรณ์ (ดัง
ต่อไปนี้) ว่า

บุรพกรรมของอชครเปรต


ดังได้ยินมา ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ
เศรษฐีชื่อว่าสุมงคล ปูพื้นที่ด้วยแผ่นอิฐทองคำ ให้สร้างวิหารในที่
ประมาณ 20 อุสภะ ด้วยทรัพย์ประมาณเท่านั้นแล้ว ก็ให้ทำการฉลองด้วย
ทรัพย์ประมาณเท่านั้นเหมือนกัน. วันหนึ่ง ท่านเศรษฐีไปสู่สำนักพระ-
ศาสดาแต่เช้าตรู่ เห็นโจรคนหนึ่งนอนเอาผ้ากาสาวะคลุมร่างตลอดถึงศีรษะ
ทั้งมีเท้าเปื้อนโคลน อยู่ในศาลาหลังหนึ่ง ใกล้ประตูพระนคร จึงกล่าวว่า
" เจ้าคนนี้ มีเท้าเปื้อนโคลน คงจักเป็นมนุษย์ที่เที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน
แล้ว (มา) นอน. "

กรรมชั่วให้ผลชั่ว


โจรเปิดหน้าเห็นเศรษฐีแล้ว คิดในใจว่า " เอาเถอะน่ะ. เราจัก
รู้กรรมที่ควรทำแก่มัน " ดังนี้แล้วก็ผูกอาฆาตไว้ ได้เผานา (ของเศรษฐี)
7 ครั้ง ตัดเท้าโคทั้งหลาย ในคอก 7 ครั้ง เผาเรือน 7 ครั้ง เขาไม่อาจ
ให้ความแค้นเคืองดับได้ แม้ด้วยทารุณกรรมมีประมาณเท่านั้น จึงทำการ
สนิทชิดเชื้อกับคนใช้ของเศรษฐีนั้นแล้ว ถามว่า " อะไรเป็นที่รักของ
เศรษฐี (นาย) ของท่าน ? " ได้ฟังว่า " วัตถุเป็นที่รักยิ่งของเศรษฐีอื่น