เมนู

4. เรื่องพระโกณฑธานเถระ [110]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระชื่อ
โกณฑธานะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " มาโวจ ผรุสํ กญฺจิ " เป็นต้น.

รูปสตรีติดตามพระเถระไปทุกแห่ง


ดังได้สดับมา จำเดิมแต่วันที่พระเถระนั้นบวชแล้ว รูปสตรีรูปหนึ่ง
เที่ยวไปกับพระเถระ (แต่) พระเถระไม่เห็นรูปสตรีนั้น, ส่วนมหาชนเห็น.
เมื่อท่านแม้เที่ยวบิณฑบาตอยู่ภายในบ้าน. พวกมนุษย์ถวายภิกษาทัพพี 1
แล้ว พูดว่า " ท่านขอรับ ส่วนนี้จงเป็นของสำหรับท่าน, แต่ส่วนนี้
สำหรับสตรีผู้สหายของท่าน " ดังนี้แล้ว ก็ถวายภิกษาแม้ทัพพีที่ 2.

บุรพกรรมของพระเถระ


ถามว่า " บุรพกรรมของท่านเป็นอย่างไร ? "
ตอบว่า " ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ
ภิกษุ 2 รูปเป็นสหายกัน ได้เป็นผู้กลมเกลียวกันอย่างยิ่ง ดุจคลอดจาก
ครรภ์มารดาเดียวกัน."
ก็ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระชนมายุยืน ภิกษุทั้งหลายย่อม
ประชุมกัน เพื่อประโยชน์แก่การทำอุโบสถทุก ๆ 1 ปี หรือทุก ๆ 6เดือน
(ครั้งหนึ่ง) เพราะฉะนั้น แม้ท่านทั้งสองรูปนั้น ก็ออกไปจากที่อยู่ด้วย
คิดว่า " จักไปสู่โรงอุโบสถ. "

เทวดาแกล้งทำพระเถระให้แตกกัน


เทวดาผู้เกิดในชั้นดาวดึงส์ผู้หนึ่ง เห็นท่านทั้งสองแล้ว คิดว่า " ภิกษุ
เหล่านั้นช่างกลมเกลียวกันเหลือเกิน, เราอาจทำลายภิกษุเหล่านี้ได้หรือ

หนอ ? " ดังนี้แล้ว ได้มาในลำดับเวลาที่ตนคิดแล้วนั่นแล เพราะความ
ที่ตนเป็นผู้เกเร. ในภิกษุ 2 รูปนั้น เมื่อรูปหนึ่งกล่าวว่า " ผู้มีอายุ ขอ
ท่านจงรออยู่สักครู่หนึ่ง ผมมีความต้องการถ่ายอุจจาระ1 " จึงนิรมิตเพศ
เป็นหญิงมนุษย์คนหนึ่ง. ในกาลที่พระเถระเข้าไปในระหว่างพุ่มไม้เเล้ว
ออกมา เอามือข้างหนึ่งเกล้ามวยผม ข้างหนึ่งจัดผ้านุ่ง (เดินตาม) ออก
มาข้างหลังพระเถระนั้น. ท่านไม่เห็นหญิงนั้น. แต่ภิกษุรูปที่ยืนอยู่ข้าง
หน้าซึ่งคอยท่านอยู่ เหลียวมาแลดูเห็นหญิงนั้นทำอย่างนั้น (เดินตาม)
ออกมา.

รังเกียจกันด้วยสีลเภท


เทวดานั้นรู้ภาวะแห่งตน อันภิกษุนั้นเห็นแล้ว ก็อันตรธานไป.
ภิกษุรูปนอกนี้ (ที่คอยอยู่) พูดกะภิกษุนั้น ในเวลาที่มาสู่ที่ใกล้ตนว่า
" ผู้มีอายุ ศีลของท่านทำลายเสียแล้ว. "
ภิกษุนั้นกล่าวว่า " ผู้มีอายุ กรรมเห็นปานนั้นของผมไม่มี. " ภิกษุ
นอกนี้กล่าวว่า " เดี๋ยวนี้เอง หญิงรุ่นสาว (เดินตาม) ออกมาข้างหลัง
ท่าน ทำกรรมชื่อนี้ผมเห็นแล้ว. ท่านยังพูด (ปฏิเสธ) ได้ว่า 'กรรมเห็น
ปานนี้ของผมไม่มี. "
ภิกษุนั้น ปานประหนึ่งถูกสายฟ้าฟาดลงที่กระหม่อม กล่าววิงวอน
ว่า " ผู้มีอายุ ขอท่านจงอย่าให้ผมฉิบหายเลย. กรรมเห็นปานนั้นของผม
ไม่มีจริง ๆ. "
ภิกษุนอกนี้ก็พูดว่า " ผมเห็นด้วยนัยน์ตาทั้งสองเอง, จักเชื่อท่าน
1. สรีรกิจฺเจน ด้วยกิจแห่งสรีระ.