เมนู

8. เรื่องภิกษุฉัพพัคคีย์ [181]


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุฉัพพัคคีย์
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " กายปฺปโกปํ " เป็นต้น.

มูลบัญญัติการสวมเขียงเท้า


ความพิสดารว่า วันหนึ่ง พระศาสดาทรงสดับเสียง " ขฏะขฏะ ก๊อก ๆ "
แห่งภิกษุเหล่านั้น ผู้ถือไม้เท้าทั้งสองมือ สวมเขียงเท้าไม้ จงกรมอยู่บน
หลังแผ่นหิน ตรัสถามว่า " อานนท์ นั่นชื่อ เสียงอะไรกัน ? " ทรงสดับา
" เป็นเสียงขฏะขฏะแห่งพวกภิกษุฉัพพัคคีย์ ผู้สวมเขียงเท้าไม้จงกรมอยู่ "
จึงทรงบัญญัติสิกขาบท แล้วตรัสว่า " ธรรมดาภิกษุ ควรรักษาทวาร
มีกายทวาร เป็นต้น " ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงได้ทรง
ภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
8. กายปฺปโกปํ รกฺเขยฺยํ กาเยน สํวุโต สิยา
กายทุจฺจริตํ หิตฺวา กาเยน สุจริตํ จเร
วจีปโกปํ รกฺเขยฺย วาจาย สํวุใต สิยา
วจีทุจฺจริตํ หิตฺวา วาจาย สุจริตํ จเร
มโนปโกปํ รกฺเขยฺย มนสา สํวุโต สิยา
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา มนสา สุจริตํ จเร
กาเยน สํวุตา ธีรา อโถ วาจาย สํวุตา
มนสา สํวุตา ธีรา เต เว สุปริสํวุตา.
" พึงรักษาความกำเริบทางกาย พึงเป็นผู้สำรวม
ทางกาย, พึงละกายทุจริตแล้ว ประพฤติสุจริตทาง
กาย; พึงรักษาความกำเริบทางวาจา, พึงเป็นผู้สำรวม

ทางวาจา พึงละวจีทุจริตแล้ว ประพฤติสุจริตทาง
วาจา; พึงละความกำเริบทางใจ, พึงเป็นผู้สำรวม
ทางใจ, พึงละมโนทุจริตแล้ว ประพฤติสุจริตทางใจ,
ธีรชนทั้งหลายสำรวมทางกาย, อนึ่งสำรวมทางวาจา,
สำรวมทางใจ, ธีรชนเหล่านั้นแล ชื่อว่าสำรวม
รอบคอบดีแล้ว. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กายปฺปโกปํ ได้แก่ พึงรักษากาย-
ทุจริตสามอย่าง.
สองบทว่า กาเยน สํวุโต ความว่า พึงห้ามการเข้าไปแห่งทุจริต
ในกายทวาร สำรวมไว้แล้ว คือมีทวารปิดแล้ว; ก็เพราะบุคคลละกาย
ทุจริตอยู่ประพฤติกายสุจริต ชื่อว่า ย่อมกระทำกรรมนั้น แม้ทั้งสองอย่าง;
ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสว่า " กายทุจฺจริตํ หิตฺวา กาเยน สุจริตํ จเร. "
แม้ในคาถาเป็นลำดับไป ก็นัยนี้เหมือนกัน.
บาทพระคาถาว่า กาเยน สํวุตา ธีรา ความว่า บัณฑิตเหล่าใด
เมื่อไม่ทำกายทุจริตมีปาณาติบาตเป็นต้น ชื่อว่า สำรวมแล้วทางกาย, เมื่อ
ไม่ทำวจีทุจริตมีมุสาวาทเป็นต้น ชื่อว่า สำรวมแล้วทางวาจา, เมื่อไม่ให้
มโนทุจริตมีอภิชฌาเป็นต้นตั้งขึ้น ชื่อว่า สำรวมแล้วทางใจ; บัณฑิต
เหล่านั้น ชื่อว่า สำรวมรอบคอบดีแล้ว คือ รักษาดีแล้ว คุ้มครองดีแล้ว
มีทวารอันปิดดีแล้ว ในโลกนี้.