เมนู

" อาสวะทั้งหลาย ของผู้ตื่นอยู่ทุกเมื่อ มีปกติ
ตามศึกษาทั้งกลางวันกลางคืน น้อมไปแล้วสู่พระ-
นิพพาน ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า อโหรตฺตานุสิกฺขินํ ได้แก่
ศึกษาไตรสิกขาอยู่ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน.
บาทพระคาถาว่า นิพฺพานํ อธิมุตฺตานํ ได้แก่ ผู้มีอัธยาศัยในพระ-
นิพพาน.
สองบทว่า อฏฺฐํ คจฺฉนฺติ ความว่า อาสวะทั้งหลายแม้ทั้งปวงของ
ผู้เห็นปานนั้น ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ คือความฉิบหาย ได้แก่ ความ
ไม่มี.
ในกาลจบเทศนา นางปุณณายืนอยู่ตามเดิมนั่นเอง ดำรงอยู่ใน
โสดาปัตติผลแล้ว. เทศนาได้มีประโยชน์แม้เเก่บริษัทผู้ประชุมกันแล้ว.

ภิกษุพากันสรรเสริญพระศาสดา


พระศาสดา ครั้นทรงทำภัตกิจด้วยขนมปิ้งที่ถ่านเพลิง ซึ่งทำด้วย
รำแล้ว ได้เสด็จไปวิหาร.
ภิกษุทั้งหลาย สนทนากันในโรงธรรมว่า " ผู้มีอายุทั้งหลาย กรรม
ทีทำได้ยากอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงทําภัตกิจ ด้วยขนมปิ้งซึ่งทำด้วย
รำ อันนางปุณณาถวาย ทรงทำแล้ว. "
พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่ง
ประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอแล ? " เมื่อภิกษุทั้งหลาย กราบทูลว่า " ด้วย
เรื่องชื่อนี้ " ดังนี้แล้ว จึงตรัสว่า " ไม่ใช่ในบัดนี้เท่านั้น ภิกษุทั้งหลาย;

ถึงในก่อน เราก็บริโภครำที่นางปุณณานี้ให้แล้วเหมือนกัน แล้วทรงนำ
อดีตนิทานมา ตรัสกุณฑกสินธวโปตกชาดก1นี้ ให้พิสดารว่า :-
พระโพธิสัตว์เมื่อจะทดลอง(ถาม) ลูกม้าสินธพนั้น จึงกล่าวคาถา
ที่ 1 ว่า
" เจ้ากินหญ้าอันเป็นเดน, เจ้ากินข้าวตังและรำ
(มาจนโต) นี่เป็นอาหารเดิมของเจ้า เพราะเหตุไร
บัดนี้ เจ้าจึงไม่กิน ? "
ลูกม้าสินธพฟังดังนั้นแล้ว จึงได้กล่าว 2 คาถานอกนี้ว่า
" ในที่ใด ชนทั้งหลาย ไม่รู้จักสัตว์ผู้ควรเลี้ยง
โดยชาติหรือโดยวินัย, ท่านมหาพราหมณ์ เออก็ใน
ที่นั้น มีข้าวตังและรำมาก, ส่วนท่านแล ย่อมรู้จัก
ข้าพเจ้าดีว่า ม้าเช่นใดนี้เป็นม้าสูงสุด ข้าพเจ้ารู้อยู่
อาศัยท่านผู้รู้ จึงไม่กินรำของท่าน. "

ดังนี้แล.
เรื่องนางปุณณทาสี จบ.
1. ขุ. ชา. 27/100. อรรถกถา. 4/23.

7. เรื่องอตุลอุบาสก [180]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสก ชื่อ
อตุละ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โปราณเมตํ " เป็นต้น.

อตุละโกรธพระเรวตะเพราะท่านไม่พูดด้วย


ความพิสดารว่า อตุละนั้นเป็นอุบาสกชาวกรุงสาวัตถี มีอุบาสก
เป็นบริวาร 500 คน วันหนึ่ง พาพวกอุบาสกเหล่านั้นไปวิหาร เพื่อ
ต้องการฟังธรรม ใคร่จะฟังธรรมในสำนักพระเรวตเถระ ไหว้พระเรวต-
เถระแล้วนั่ง.
ก็ท่านผู้มีอายุนั้น เป็นผู้ยินดีในการหลีกเร้น เที่ยวไปผู้เดียวเหมือน
ราชสีห์, ฉะนั้น ท่านจึงไม่กล่าวอะไรกับอุบาสกนั้น เขาโกรธว่า " พระ-
เถระนี้ ไม่กล่าวอะไร " จึงลุกขึ้น ไปยังสำนักพระสารีบุตรเถระ ยืนอยู่
ณ ส่วนข้างหนึ่ง. เมื่อพระเถระกล่าวว่า " พวกท่านมาด้วยต้องการอะไร ? "
จึงกล่าวว่า " ท่านขอรับ ผมพาอุบาสกเหล่านี้เข้าไปหาพระเรวตเถระ เพื่อ
ต้องการฟังธรรม, พระเถระไม่กล่าวอะไรแก่ผมนั้นเลย, ผมนั้นโกรธท่าน
จึงมาที่นี้, ขอท่านจงแสดงธรรมแก่ผมเถิด. "
ลำดับนั้น พระเถระกล่าวว่า " ถ้าอย่างนั้น พวกท่านจงนั่งเถิด
อุบาสกทั้งหลาย " แล้วแสดงอภิธรรมกถาอย่างมากมาย.

อตุละโกรธคนผู้พูดมาก


อุบาสกโกรธว่า " ชื่อว่าอภิธรรมกถา ละเอียดยิ่งนัก สุขุมยิ่งนัก,
พระเถระแสดงอภิธรรมอย่างเดียวมากมาย, พวกเราต้องการอะไรด้วย