เมนู

ปรินิพพาน คราวนั้นชนทั้งหลายทำสักการะอย่างมากมายแก่พราหมณ์และ
พราหมณีเหล่านั้นแล้ว ก็ยกทั้งสองขึ้นสู่เรือนยอดหลังเดียวกันนั่นแหละ
นำไปแล้ว.
แม้พระศาสดา มีภิกษุ 500 รูปเป็นบริวาร ได้เสด็จไปยังป่าช้ากับ
ชนเหล่านั้นเหมือนกัน.
มหาชนออกไปแล้ว ด้วยคิดว่า " ได้ยินว่าพระมารดาและพระบิดา
ของพระพุทธเจ้าทำกาละเสียแล้ว. พระศาสดาได้เสด็จเข้าไปยังศาลาหลัง
หนึ่ง ในที่ใกล้ป่าช้าประทับยืนแล้ว. พวกมนุษย์ถวายบังคมพระศาสดา
แล้วยืน ณ ส่วนข้างหนึ่ง ทำปฏิสันถารกับพระศาสดา ด้วยทูลว่า " พระ
เจ้าข้า ขอพระองค์อย่าทรงคิดว่า " พระมารดาและพระบิดาของพระองค์
ทำกาละแล้ว. "

พระศาสดาตรัสชราสูตร


พระศาสดา ไม่ทรงห้ามคนเหล่านั้นเลยว่า " พวกเธออย่าได้กล่าว
อย่างนั้น " ทรงตรวจดูอัธยาศัยของบริษัทแล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม
ให้เหมาะแก่ขณะนั้น จึงตรัสชราสูตร1นี้ โดยนัยเป็นต้นว่า :-
" ชีวิตนี้น้อยหนอ สัตว์ย่อมตายหย่อนแม้กว่า
100 ปี, แม้หากผู้ใดเป็นอยู่เกินไป, ผู้นั้นย่อมตาย
แม้เพราะชราโดยแท้. "

ในกาลจบเทศนา ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ 8 หมื่น 4 พันแล้ว.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อไม่ทราบความที่พราหมณ์และพราหมณีปริ-
1. ขุ. มหา. 29/141.

นิพพานแล้ว จึงทูลถามว่า " ภพหน้าของพราหมณ์และพราหมณีนั้นเป็น
อย่างไร ? พระเจ้าข้า. "

พระอเสขมุนีไปสู่ฐานะที่ไม่จุติ


พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าอภิสัมปรายภพของพระ-
อเสขมุนีทั้งหลายผู้เห็นปานนั้น ย่อมไม่มี, เพราะว่าพระอเสขมุนีผู้เห็น
ปานนั้น ย่อมบรรลุมหานิพพานอันไม่จุติ อันไม่ตาย " ดังนี้แล้ว จึงตรัส
พระคาถานี้ว่า :-
5. อหึสกา เย มุนโย นิจฺจํ กาเยน สํวุตา
เต ยนฺติ อจฺจุตํฐานํ ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร.
" มุนีเหล่าใด เป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมแล้ว
ด้วยกายเป็นนิตย์ มุนีเหล่านั้น ย่อมไปสู่ฐานะอัน
ไม่จุติ ซึ่งเป็นที่คนทั้งหลายไปแล้วไม่เศร้าโศก. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มุนโย คือ พระอเสขมุนีทั้งหลายบรรลุ
มรรคและผลด้วยโมไนยปฏิปทา.
บทว่า กาเยน นั่น สักว่าเป็น (หัวข้อ) เทศนาเท่านั้น. อธิบายว่า
สำรวมแล้วด้วยทวารแม้ทั้ง 3.
บทว่า อจฺจุตํ ได้แก่ เที่ยง.
บทว่า ฐานํ ได้แก่ ฐานะที่ไม่กำเริบ คือฐานะที่ยั่งยืน.