เมนู

พระศาสดา ทรงสดับกถาของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย ทั้งสองสามีภริยานั้น ย่อมเรียกบุตรของตนเท่านั้นว่า 'บุตร'
ดังนี้แล้ว จึงทรงนำอดีตนิทานมา ทรงแสดงความที่พระองค์เป็นบุตร
ของพราหมณ์ผัวเมียทั้งสองนั้นสิ้น 3,000 ชาติว่า " ภิกษุทั้งหลาย ในอดีต-
กาล พราหมณ์นี้ได้เป็นบิดาของเรา 5,000 ชาติติด ๆ กัน, เป็นอาของเรา
500 ชาติ, เป็นลุง 500 ชาติ, ถึงพราหมณีนั้นก็ได้เป็นมารดาของเรา
500 ชาติติด ๆ กัน, เป็นน้าของเรา 500 ชาติ, เป็นป้าของเรา 500
ชาติ; เราเป็นผู้เจริญแล้วในมือของพราหมณ์ 1,500 ชาติ; เจริญแล้ว
ในมือพราหมณี 1,500 ชาติอย่างนี้. " แล้วได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้
ว่า :-
" ใจย่อมจดจ่อ, แม้จิตก็เลื่อมใสในบุคคลใด,
เขาย่อมสนิทสนมในบุคคลแม้นั้น ซึ่งตนไม่เคยเห็น
โดยแท้1 ความรักนั้นย่อมเกิด เพราะอาศัยเหตุ 2
ประการอย่างนี้ คือเพราะการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน 1,
เพราะการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน 1 เปรียบเหมือน
ดอกบัวเกิดในน้ำได้ (เพราะอาศัยเปือกตมและน้ำ)
ฉะนั้น."2

พระศาสดาเสด็จไปสู่ที่เผาศพของพราหมณ์


พระศาสดาทรงอาศัยตระกูลนั้น ประทับอยู่แล้วสิ้นไตรมาสนั่นแล.
ฝ่ายพราหมณ์และพราหมณีทั้งสองนั้น ทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัตผลแล้วก็
1. ขุ. ชา. 27/22. สาเกตชาดก. อรรถกถา. 2/109.
2. ขุ. ชา. 27/91. อรรถกถา. 3/302.

ปรินิพพาน คราวนั้นชนทั้งหลายทำสักการะอย่างมากมายแก่พราหมณ์และ
พราหมณีเหล่านั้นแล้ว ก็ยกทั้งสองขึ้นสู่เรือนยอดหลังเดียวกันนั่นแหละ
นำไปแล้ว.
แม้พระศาสดา มีภิกษุ 500 รูปเป็นบริวาร ได้เสด็จไปยังป่าช้ากับ
ชนเหล่านั้นเหมือนกัน.
มหาชนออกไปแล้ว ด้วยคิดว่า " ได้ยินว่าพระมารดาและพระบิดา
ของพระพุทธเจ้าทำกาละเสียแล้ว. พระศาสดาได้เสด็จเข้าไปยังศาลาหลัง
หนึ่ง ในที่ใกล้ป่าช้าประทับยืนแล้ว. พวกมนุษย์ถวายบังคมพระศาสดา
แล้วยืน ณ ส่วนข้างหนึ่ง ทำปฏิสันถารกับพระศาสดา ด้วยทูลว่า " พระ
เจ้าข้า ขอพระองค์อย่าทรงคิดว่า " พระมารดาและพระบิดาของพระองค์
ทำกาละแล้ว. "

พระศาสดาตรัสชราสูตร


พระศาสดา ไม่ทรงห้ามคนเหล่านั้นเลยว่า " พวกเธออย่าได้กล่าว
อย่างนั้น " ทรงตรวจดูอัธยาศัยของบริษัทแล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม
ให้เหมาะแก่ขณะนั้น จึงตรัสชราสูตร1นี้ โดยนัยเป็นต้นว่า :-
" ชีวิตนี้น้อยหนอ สัตว์ย่อมตายหย่อนแม้กว่า
100 ปี, แม้หากผู้ใดเป็นอยู่เกินไป, ผู้นั้นย่อมตาย
แม้เพราะชราโดยแท้. "

ในกาลจบเทศนา ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ 8 หมื่น 4 พันแล้ว.
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อไม่ทราบความที่พราหมณ์และพราหมณีปริ-
1. ขุ. มหา. 29/141.