เมนู

เรือนนี้แห่งเดียว ตลอดกึ่งเดือนนี้. " รับปฏิญญาของพระศาสดาแล้ว
มีใจยินดีว่า " บัดนี้ เราจักได้เพื่ออุปัฏฐากพระศาสดาและฟังธรรมตั้งแต่นี้
ไป ตลอดจนถึงวันมหาปวารณา " เที่ยวจัดแจงกิจทุกอย่างในโรงครัว
ใหญ่ว่า " พวกท่านจงต้มข้าวต้มอย่างนั้น จงนึ่งขนมอย่างนี้. "
ครั้งนั้น สามีของนางคิดว่า " พรุ่งนี้เป็นวันมหาปวารณา " ยื่นตรง
หน้าต่าง บ่ายหน้าไปทางโรงครัวใหญ่ ตรวจดูอยู่ด้วยคิดว่า " นาง
อันธพาลนั้น เที่ยวทำอะไรอยู่หนอแล ? " แลเห็นธิดาเศรษฐีนั้น ขะมุก-
ขะมอมไปด้วยเหงื่อ เปรอะด้วยเถ้า มอมแมมด้วยถ่านและเขม่า เที่ยวจัด
ทำอยู่อย่างนั้น จึงคิดว่า " พุทโธ่ หญิงอันธพาล ไม่เสวยสมบัติมีสิริเช่นนี้
ในฐานะเห็นปานนี้, กลับมีจิตยินดีว่า ' เราจักอุปัฏฐากศีรษะโล้น.
เที่ยวไปได้ " จึงหัวเราะแล้วหลบไป.
เมื่อเศรษฐีบุตรนั้นหลบไปแล้ว. นางสิริมาซึ่งยืนอยู่ในที่ใกล้ของ
เขาคิดว่า " เศรษฐีบุตรนั่นมองดูอะไรหนอแล จึงหัวเราะ " จึงมองลงไป
ทางหน้าต่างนั้นแหละ เห็นนางอุตตราแล้วคิดว่า " เศรษฐีบุตรนี้หัวเราะ
ก็เพราะเห็นนางคนนี้, ความชิดชมของเศรษฐีบุตรนี้คงมีกับด้วยนางนี้
เป็นแน่. "

นางสิริมาหึงนางอุตตราเอาเนยใสเดือดรด


ได้ยินว่า นางสิริมานั้นแม้อยู่เป็นพาหิรกสตรีในเรือนนั้นตลอดกึ่ง
เดือน เสวยสมบัตินั้นอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นหญิงภายนอก ได้ทำความ
สำคัญว่า " ตัวเป็นแม่เจ้าเรือน. " นางผูกอาฆาตต่อนางอุตตราว่า " จัก
ต้องยังทุกข์ให้เกิดแก่มัน " จึงลงจากปราสาท เข้าไปสู่โรงครัวใหญ่ เอา

ทัพพีตักเนยใสอันเดือดพล่านในที่ทอดขนมแล้ว ก็เดินมุ่งหน้าตรงไปหา
นางอุตตรา. นางอุตตราเห็นนางสิริมาเดินมา จึงแผ่เมตตาไปถึงนางว่า
" หญิงสหายของเราทำอุปการะแก่เรามาก, จักรวาลก็แคบเกินไป, พรหม-
โลกก็ต่ำนัก, ส่วนคุณของหญิงสหายเราใหญ่มาก; ก็เราอาศัยนางนั่น จึงได้
เพื่อถวายทานและฟังธรรม; ถ้าเรามีความโกรธเหนือนางสิริมานั้น เนยใส
นี้จงลวกเราเถิด; ถ้าไม่มี อย่าลวกเลย. " เนยใสซึ่งเดือดพล่านที่นางสิริมา
นั้นรดลงเบื้องบนนางอุตตรานั้น ได้เป็นเหมือนน้ำเย็น.
ลำดับนั้น พวกทาสีของนางอุตตรา เห็นนางผู้ตักเนยใสให้เต็มทัพพี
อีกด้วยเข้าใจว่า " เนยใสนี้คงจักเย็น ถือเดินมาอยู่ จึงคุกคามว่า " นาง
หัวดื้อ เจ้าจงหลีกไป, เจ้าไม่ควรจะรดเนยใสที่เดือดพล่าน บนเจ้าแม่ของ
พวกเรา " แล้วต่างลุกขึ้นจากที่นี้บ้าง ที่นั้นบ้าง ใช้มือบ้าง เท้าบ้าง ทุบ
ถีบให้ล้มลงบนพื้น. นางอุตตราไม่สามารถจะห้ามปรามนางทาสีเหล่านั้น
ได้. ทีนั้นนางจึงห้ามทาสีทุกคน ที่ยืนคร่อมอยู่ข้างบนนางสิริมานั้นแล้ว
ถามว่า " เพื่อประสงค์อะไร เธอจึงทำกรรมหนักถึงปานนี้ ? " ดังนี้แล้ว
โอวาทนางสิริมา ให้อาบด้วยน้ำอุ่น ทาด้วยน้ำมันที่หุงตั้ง 100 ครั้ง.

นางสิริมารู้สึกตัวขอโทษนางอุตตรา


ขณะนั้น นางสิริมานั้นรู้สึกตัวว่าเป็นหญิงภายนอกแล้ว คิดว่า " เรา
รดเนยใสที่เดือดพล่านลงเบื้องบนนางอุตตรานี้ เพราะเหตุเพียงความหัวเราะ
ของสามี ทำกรรมหนักแล้ว, นางอุตตรานี้ไม่สั่งบังคับพวกทาสีว่า ' พวก
เธอจงจับเขาไว้ ' กลับห้ามพวกทาสีทั้งหมด แม้ในเวลาที่ข่มเหงเรา ได้
ทำกรรมที่ควรแก่เราทั้งนั้น; ถ้าเราไม่ขอให้นางอุตตรานี้อดโทษให้, ศีรษะ