เมนู

สาวใช้. ยังอยู่อีกครึ่งเดือน คุณแม่.
นางส่งข่าวไปให้บิดาว่า " เหตุไฉน บิดาจึงขังดิฉันไว้ในเรือน มี
รูปอย่างนี้ ? การที่บิดาทำฉันให้เป็นคนเสียโฉม แล้วประกาศว่า เป็น
ทาสีของชนพวกอื่น ยังจะประเสริฐกว่า, การที่ยกให้แก่ตระกูลมิจฉาทิฏฐิ
เห็นปานนี้ ไม่ประเสริฐเลย, ตั้งแต่ดิฉันมาแล้ว ดิฉันไม่ได้ทำบุญแม้
สักอย่างในประเภทบุญ มีการพบเห็นภิกษุเป็นต้นเลย. "
ลำดับนั้น บิดาของนางให้รู้สึกไม่สบายใจ ด้วยคิดว่า " ธิดาของ
เราได้รับทุกข์หนอ " จึงส่งทรัพย์ไป 15,000 กหาปณะ ด้วยสั่งว่า " ใน
นครนี้ มีหญิงคณิกาชื่อสิริมา, เจ้าจงพูดว่า ' หล่อนจงรับทรัพย์วันละ
1,000 กหาปณะ นำนางมาด้วยกหาปณะเหล่านี้ ทำให้เป็นนางบำเรอ
ของสามีแล้ว ส่วนตัวเจ้าจงทำบุญทั้งหลายเถิด. "
นางให้เชิญนางสิริมามาแล้ว พูดว่า " สหาย เธอจงรับกหาปณะ
เหล่านั้นแล้ว บำเรอชาย สหายของเธอสักกึ่งเดือนนี้เถิด. "
นางสิริมานั้นรับรองว่า " ดีละ " นางพาเขาไปสำนักของสามี เมื่อ
สามีนั้นเห็นนางสิริมาแล้ว กล่าวว่า " อะไรกันนี่ ? " จึงบอกว่า " นาย
ขอให้หญิงสหายของดิฉันบำเรอนายตลอดกึ่งเดือนนี้, ส่วนดิฉันใคร่จะ
ถวายทานและฟังธรรม ตลอดกึ่งเดือนนี้. "
เศรษฐีบุตรเห็นนางมีรูปงาม เกิดความสิเนหา จึงรับรองว่า
" ดีละ."

นางอุตตราได้โอกาสทำบุญ


แม้นางอุตตราแล นิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขว่า
" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์อย่าเสด็จไปที่อื่น พึงรับภิกษาใน

เรือนนี้แห่งเดียว ตลอดกึ่งเดือนนี้. " รับปฏิญญาของพระศาสดาแล้ว
มีใจยินดีว่า " บัดนี้ เราจักได้เพื่ออุปัฏฐากพระศาสดาและฟังธรรมตั้งแต่นี้
ไป ตลอดจนถึงวันมหาปวารณา " เที่ยวจัดแจงกิจทุกอย่างในโรงครัว
ใหญ่ว่า " พวกท่านจงต้มข้าวต้มอย่างนั้น จงนึ่งขนมอย่างนี้. "
ครั้งนั้น สามีของนางคิดว่า " พรุ่งนี้เป็นวันมหาปวารณา " ยื่นตรง
หน้าต่าง บ่ายหน้าไปทางโรงครัวใหญ่ ตรวจดูอยู่ด้วยคิดว่า " นาง
อันธพาลนั้น เที่ยวทำอะไรอยู่หนอแล ? " แลเห็นธิดาเศรษฐีนั้น ขะมุก-
ขะมอมไปด้วยเหงื่อ เปรอะด้วยเถ้า มอมแมมด้วยถ่านและเขม่า เที่ยวจัด
ทำอยู่อย่างนั้น จึงคิดว่า " พุทโธ่ หญิงอันธพาล ไม่เสวยสมบัติมีสิริเช่นนี้
ในฐานะเห็นปานนี้, กลับมีจิตยินดีว่า ' เราจักอุปัฏฐากศีรษะโล้น.
เที่ยวไปได้ " จึงหัวเราะแล้วหลบไป.
เมื่อเศรษฐีบุตรนั้นหลบไปแล้ว. นางสิริมาซึ่งยืนอยู่ในที่ใกล้ของ
เขาคิดว่า " เศรษฐีบุตรนั่นมองดูอะไรหนอแล จึงหัวเราะ " จึงมองลงไป
ทางหน้าต่างนั้นแหละ เห็นนางอุตตราแล้วคิดว่า " เศรษฐีบุตรนี้หัวเราะ
ก็เพราะเห็นนางคนนี้, ความชิดชมของเศรษฐีบุตรนี้คงมีกับด้วยนางนี้
เป็นแน่. "

นางสิริมาหึงนางอุตตราเอาเนยใสเดือดรด


ได้ยินว่า นางสิริมานั้นแม้อยู่เป็นพาหิรกสตรีในเรือนนั้นตลอดกึ่ง
เดือน เสวยสมบัตินั้นอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นหญิงภายนอก ได้ทำความ
สำคัญว่า " ตัวเป็นแม่เจ้าเรือน. " นางผูกอาฆาตต่อนางอุตตราว่า " จัก
ต้องยังทุกข์ให้เกิดแก่มัน " จึงลงจากปราสาท เข้าไปสู่โรงครัวใหญ่ เอา