เมนู

มงคล1 และฉัตรมงคล2 เป็นงานเดียวกัน ได้ถวายทานแด่ภิกษุสงฆ์ มี
พระพุทธเจ้าเป็นประมุขตลอด 7 วัน. ครั้งนั้น พระศาสดาเมื่อจะทรง
ทำอนุโมทนาแก่เขา จึงตรัสอนุปุพพีกถาแล้ว.
ในกาลจบธรรมกถา ชนทั้ง 3 คือ ปุณณเศรษฐี 1 ภรรยาของ
เขา 1 นางอุตตราผู้เป็นธิดา 1 ได้เป็นพระโสดาบันแล้ว.

ธิดาปุณณเศรษฐีได้เป็นภรรยาบุตรสุมนเศรษฐี


ในกาลต่อมา เศรษฐีในกรุงราชคฤห์ ขอธิดาของปุณณเศรษฐีให้
บุตรของตน. เขาพูดว่า " ผมให้ไม่ได้." เมื่อเศรษฐีในกรุงราชคฤห์
พูดว่า " จงอย่าทำอย่างนั้น, ท่านอาศัยฉันอยู่ตลอดเวลาถึงเพียงนี้ทีเดียว
จึงได้สมบัติ, จงให้ธิดาแก่บุตรของฉันเถิด " จึงกล่าวว่า " บุตรของ
ท่านนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ, ส่วนธิดาของผมเหินห่างจากพระรัตนะทั้งสามแล้ว
ไม่อาจเป็นไปได้, ผมจึงจักยกธิดาให้บุตรของท่านไม่ได้เลย. "
ครั้งนั้น กุลบุตรทั้งหลายมีเศรษฐีและคฤหบดีเป็นต้น เป็นอันมาก
วิงวอนเขาว่า " อย่าทำลายความสนิทสนมกับด้วยเศรษฐีในกรุงราชคฤห์
นั้น, จงยกธิดาให้บุตรของเขาเถิด. " เขารับคำของกุลบุตรเหล่านั้นแล้ว
ได้ยกธิดาให้ในดิถีเพ็ญเดือนอาสฬหะ.
จำเดิมแต่เวลาไปสู่เรือนตระกูลสามีแล้ว นางมิได้เพื่อจะเข้าไปหาภิกษุ
หรือภิกษุณี หรือเพื่อถวายทานหรือฟังธรรมเลย. เมื่อล่วงไปได้ประมาณ
2 เดือนครึ่ง ด้วยอาการอย่างนี้, นางจึงถามสาวใช้ผู้อยู่ในสำนักว่า " เวลา
นี้ภายในพรรษายังเหลืออีกเท่าไร ? "
1. มงคลอันบุคคลพึงทำในกาลเป็นที่เข้าไปสู่เรือน. 2. มงคลอันบุคคลพึงทำแก่ฉัตร ในกาล
เป็นที่ฉลองฉัตร.