เมนู

ชาวพระนครเล่นนักษัตรกัน. ฉันต้องไปทำการรับจ้าง เพราะความที่เรา
เป็นคนจน. วันนี้เจ้าพึงต้มผักสัก 2 เท่า แล้วนำภัตไปให้เราก่อน "
แล้วจึงได้ไปนา.

พระสารีบุตรเถระไปสงเคราะห์นายปุณณะ


ในกาลนั้น พระสารีบุตรเถระเข้านิโรธสมาบัติตลอด 7 วันแล้ว
ในวันนั้นออกแล้ว ตรวจดูว่า " วันนี้ เราควรจะทำความสงเคราะห์แก่
ใครหนอแล ? " เห็นนายปุณณะซึ่งเข้าไปในข่ายคือญาณของตนแล้ว
จึงตรวจดูว่า " นายปุณณะนี้ มีศรัทธาหรือหนอ ? เขาจักอาจทำการ
สงเคราะห์แก่เราหรือไม่ ? " ทราบความที่เขามีศรัทธา มีความสามารถจะ
ทำการสงเคราะห์ได้ และเขาจะได้รับสมบัติใหญ่เพราะบุญนั้นเป็นปัจจัย
แล้ว จึงถือบาตรและจีวรไปยังที่ไถนาของเขา ได้ยืนแลดูพุ่มไม้ที่ริมบ่อ.
นายปุณณะเห็นพระเถระแล้ว จึงวางไถ ไหว้พระเถระด้วยเบญจางค-
ประดิษฐ์แล้ว คิดว่า " พระเถระคงจักต้องการไม้สีฟัน " จึงได้ทำไม้
สีฟันให้เป็นกัปปิยะถวาย.
ลำดับนั้น พระเถระได้นำเอาบาตรและผ้ากรองน้ำออกมาให้เขา.
เขาคิดว่า " พระเถระจักมีความต้องการด้วยน้ำดื่ม " จึงถือเอาบาตรและ
ผ้ากรองน้ำนั้นแล้ว ได้กรองน้ำดื่มถวาย.
พระเถระคิดว่า " นายปุณณะนี้ อยู่เรือนหลังท้ายของชนเหล่าอื่น,
ถ้าเราจักไปสู่เรือนของเขา, ภรรยาของนายปุณณะนี้จักไม่ได้เห็นเรา;
เราจักต้องอยู่ ณ ที่นี้แหละ จนกว่าภรรยาของเขาจักเดินทางนำภัตมาให้
เขา." พระเถระได้ยังเวลาให้ล่วงไปเล็กน้อย ณ ที่นั้นเอง ทราบความที่
ภรรยาของนายปุณณะนั้นขึ้นสู่ทางแล้ว จึงเดินมุ่งหน้าไปภายในพระนคร.

ภรรยานายปุณณะถวายภัตแก่พระเถระ


นางพบพระเถระในระหว่างทางแล้ว คิดว่า " บางคราว เมื่อมี
ไทยธรรม, เราก็ไม่พบพระผู้เป็นเจ้า, บางคราว เมื่อเราพบพระผู้เป็น
เจ้า, ไทยธรรมก็ไม่มี, ก็วันนี้เราได้พบพระผู้เป็นเจ้าแล้ว, ทั้งไทยธรรม
ก็มีอยู่; พระผู้เป็นเจ้า จักทำความอนุเคราะห์แก่เราหรือหนอแล " นาง
วางภาชนะใส่ภัตลงแล้ว ไหว้พระเถระด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้ว กล่าว
ว่า " ท่านผู้เจริญ ขอพระผู้เป็นเจ้าอย่าคิดว่า ' ภัตนี้ เศร้าหมองหรือ
ประณีต ' จงทำความสงเคราะห์แก่ทาสของพระผู้เป็นเจ้าเถิด. "
พระเถระน้อมบาตรเข้าไป เมื่อนางเอามือข้างหนึ่งรองภาชนะ อีก
ข้างหนึ่งถวายภัตอยู่, เมื่อถวายไปได้ครึ่งหนึ่ง จึงเอามือปิดบาตรด้วยพูดว่า
" พอแล้ว. " นางกล่าวว่า " พระคุณเจ้า ส่วนเพียงส่วนเดียว ดิฉันไม่
อาจทำให้เป็นสองส่วนได้ พระผู้เป็นเจ้าไม่ต้องทำความสงเคราะห์แก่ทาส
ของพระผู้เป็นเจ้าในโลกนี้ จงทำความสงเคราะห์ในปรโลกเถิด, ดิฉัน
ประสงค์จะถวายมิให้เหลือเศษเลย " ดังนี้แล้ว ก็ได้ใส่ภัตทั้งหมดลงใน
บาตรของพระเถระ แล้วทำความปรารถนาว่า " ดิฉันพึงเป็นผู้มีส่วนแห่ง
ธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าเห็นแล้วนั่นแหละ."
พระเถระกล่าวว่า " จงสำเร็จอย่างนั้นเถิด " ยืนอยู่นั่นแหละ ทำ
อนุโมทนาเเล้ว ได้นั่งทำภัตกิจ ณ ที่สะดวกด้วยน้ำแห่งหนึ่ง.
ฝ่ายนางกลับไปหาข้าวสารหุงเป็นภัตแล้ว. แม้นายปุณณะที่ได้
ประมาณครึ่งกรีส ไม่อาจทนความหิวได้ จึงปล่อยโค เข้าไปยังร่มไม้
แห่งหนึ่ง นั่งคอยดูทางอยู่.
ลำดับนั้น ภรรยาของเขาถือภัตเดินไป พอเห็นเขาก็คิดว่า " เขา