เมนู

3. เรื่องอุตตราอุบาสิกา [176]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงทำภัตกิจในเรือน
ของนางอุตตราแล้ว ทรงปรารภอุบาสิกาชื่ออุตตรา ตรัสพระธรรมเทศนา
นี้ว่า " อกฺโกเธน ชิเน โกธํ " เป็นต้น.

นายปุณณะยากจนต้องรับจ้างสุมนเศรษฐี


อนุปุพพีกถา ในเรื่องอุตตราอุบาสิกานั้น ดังต่อไปนี้ :-
ได้ยินว่า คนขัดสนชื่อปุณณะ อาศัยสุมนเศรษฐี รับจ้างเลี้ยงชีพ
อยู่ในกรุงราชคฤห์. ในเรือน (ของเขา) มีคน 2 คนเท่านั้น คือภรรยา
ของเขาคนหนึ่ง ธิดาชื่อนางอุตตราคนหนึ่ง.
ต่อมาวันหนึ่ง พวกราชบุรุษทำการโฆษณาในกรุงราชคฤห์ว่า
" ชาวพระนครพึงเล่นนักษัตรกันตลอด 7 วัน. " สุมนเศรษฐีได้ยินคำ
โฆษณานั้นแล้ว จึงเรียกนายปุณณะผู้มาแต่เช้าตรู่กล่าวว่า " พ่อ ปริชน
ของฉัน ประสงค์จะเล่นนักษัตรกัน, แกจักเล่นนักษัตร (กะเขา) หรือ
หรือว่าจักทำการรับจ้างเล่า ? "
นายปุณณะ. นาย ชื่อว่าการเล่นนักษัตร ย่อมเป็นของพวกท่าน
ผู้มีทรัพย์. ก็ในเรือนของผม แม้ข้าวสารจะต้มข้าวต้มเพื่อรับประทานใน
วันพรุ่งนี้ก็ไม่มี. ผมจะต้องการอะไรด้วยนักษัตรเล่า ? ผมได้โคเเล้ว ก็
จักไปไถนา.
สุมนเศรษฐี. ถ้าเช่นนั้น แกจงรับโคไปเถิด.
เขารับโคตัวทรงกำลังและไถแล้ว พูดกะภรรยาว่า " นางผู้เจริญ

ชาวพระนครเล่นนักษัตรกัน. ฉันต้องไปทำการรับจ้าง เพราะความที่เรา
เป็นคนจน. วันนี้เจ้าพึงต้มผักสัก 2 เท่า แล้วนำภัตไปให้เราก่อน "
แล้วจึงได้ไปนา.

พระสารีบุตรเถระไปสงเคราะห์นายปุณณะ


ในกาลนั้น พระสารีบุตรเถระเข้านิโรธสมาบัติตลอด 7 วันแล้ว
ในวันนั้นออกแล้ว ตรวจดูว่า " วันนี้ เราควรจะทำความสงเคราะห์แก่
ใครหนอแล ? " เห็นนายปุณณะซึ่งเข้าไปในข่ายคือญาณของตนแล้ว
จึงตรวจดูว่า " นายปุณณะนี้ มีศรัทธาหรือหนอ ? เขาจักอาจทำการ
สงเคราะห์แก่เราหรือไม่ ? " ทราบความที่เขามีศรัทธา มีความสามารถจะ
ทำการสงเคราะห์ได้ และเขาจะได้รับสมบัติใหญ่เพราะบุญนั้นเป็นปัจจัย
แล้ว จึงถือบาตรและจีวรไปยังที่ไถนาของเขา ได้ยืนแลดูพุ่มไม้ที่ริมบ่อ.
นายปุณณะเห็นพระเถระแล้ว จึงวางไถ ไหว้พระเถระด้วยเบญจางค-
ประดิษฐ์แล้ว คิดว่า " พระเถระคงจักต้องการไม้สีฟัน " จึงได้ทำไม้
สีฟันให้เป็นกัปปิยะถวาย.
ลำดับนั้น พระเถระได้นำเอาบาตรและผ้ากรองน้ำออกมาให้เขา.
เขาคิดว่า " พระเถระจักมีความต้องการด้วยน้ำดื่ม " จึงถือเอาบาตรและ
ผ้ากรองน้ำนั้นแล้ว ได้กรองน้ำดื่มถวาย.
พระเถระคิดว่า " นายปุณณะนี้ อยู่เรือนหลังท้ายของชนเหล่าอื่น,
ถ้าเราจักไปสู่เรือนของเขา, ภรรยาของนายปุณณะนี้จักไม่ได้เห็นเรา;
เราจักต้องอยู่ ณ ที่นี้แหละ จนกว่าภรรยาของเขาจักเดินทางนำภัตมาให้
เขา." พระเถระได้ยังเวลาให้ล่วงไปเล็กน้อย ณ ที่นั้นเอง ทราบความที่
ภรรยาของนายปุณณะนั้นขึ้นสู่ทางแล้ว จึงเดินมุ่งหน้าไปภายในพระนคร.