เมนู

17. โกธวรรควรรณนา


1. เรื่องเจ้าหญิงโรหิณี [174]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในนิโครธาราม ทรงปรารภเจ้าหญิง
โรหิณี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โกธํ ชเห " เป็นต้น.

สร้างโรงฉันหายจากโรคผิวหนังได้


ได้ยินว่า สมัยหนึ่ง พระอนุรุทธผู้มีอายุได้ไปเมืองกบิลพัสดุ์พร้อม
ด้วยภิกษุ 500. ครั้งนั้น พวกพระญาติของท่าน ทรงสดับว่า พระเถระมา
จึงได้ไปสู่สำนักพระเถระ เว้นเเต่พระน้องนางของพระเถระชื่อโรหิณี.
พระเถระถามพวกพระญาติว่า " พระนางโรหิณีอยู่ไหน ? "
พวกพระญาติ. อยู่ในตำหนัก เจ้าข้า.
พระเถระ. เหตุไร ? จึงไม่เสด็จมา.
พวกพระญาติ. พระนางไม่เสด็จมาเพราะทรงละอายว่า ' โรคผิว
หนังเกิดที่สรีระของเขา ' เจ้าข้า.
พระเถระ กล่าวว่า " ท่านทั้งหลายจงเชิญพระนางเสด็จมาเถิด "
ให้ไปเชิญพระนางเสด็จมาแล้ว จึงกล่าวอย่างนี้ กะพระนางผู้ทรงฉลอง-
พระองค์เสด็จมาแล้วว่า " โรหิณี เหตุไร ? เธอจึงไม่เสด็จมา. "
พระนางโรหิณี. ท่านผู้เจริญ โรคผิวหนังเกิดขึ้นที่สรีระของ
หม่อมฉัน; เหตุนั้น หม่อมฉันจึงมิได้มาด้วยความละอาย.
พระเถระ. ก็เธอทรงทำบุญไม่ควรหรือ ?
พระนางโรหิณี. จะทำอะไร ? เจ้าข้า.

พระเถระ. จงให้สร้างโรงฉัน.
พระนางโรหิณี. หม่อมฉันจะเอาอะไรทำ ?
พระเถระ. ก็เครื่องประดับของเธอไม่มีหรือ ?
พระนางโรหิณี. มีอยู่ เจ้าข้า.
พระเถระ. ราคาเท่าไร ?
พระนางโรหิณี. จักมีราคาหมื่นหนึ่ง.
พระเถระ. ถ้ากระนั้น จงขายเครื่องประดับนั้น ให้สร้างโรง-
ฉันเถิด.
พระนางโรหิณี. ใครเล่า ? จักทําให้หม่อมฉัน เจ้าข้า.
พระเถระ. แลดูพระญาติซึ่งยืนอยู่ในที่ใกล้เเล้ว กล่าวว่า " ขอจง
เป็นภาระของพวกท่านทั้งหลาย."
พวกพระญาติ. ก็พระคุณเจ้าจักทำอะไรหรือ ? เจ้าข้า.
พระเถระ. แม้อาตมภาพก็จักอยู่ในที่นี้เหมือนกัน, ถ้ากระนั้นพวก
ท่านจงนำทัพพสัมภาระมาเพื่อโรงฉันนี่.
พวกพระญาตินั้น ตรัสว่า " ดีละ เจ้าข้า " จึงนำมาแล้ว.
พระเถระ. เมื่อจะจัดโรงฉัน จึงกล่าวกะพระนางโรหิณีว่า " เธอ
จงให้ทำโรงฉันเป็น 2 ชั้น จำเดิมแต่กาลที่ให้พื้นชั้นบนเรียบแล้วจง
กวาดพื้นล่าง แล้วให้ปูอาสนะไว้เสมอ ๆ, จงให้ตั้งหม้อน้ำดื่มไว้เสมอๆ. "
พระนางรับคำว่า " ดีละ เจ้าข้า " แล้วจำหน่ายเครื่องประดับ ให้ทำ
โรงฉัน 2 ชั้น เริ่มแต่กาลที่ให้พื้นชั้นบนเรียบแล้ว ได้ทรงทำกิจมีการ
กวาดพื้นล่างเป็นต้นเนือง ๆ. พวกภิกษุก็นั่งเสมอ ๆ.
ลำดับนั้น เมื่อพระนางกวาดโรงฉันอยู่นั่นแล. โรคผิวหนังก็ราบ

ไปแล้ว. เมื่อโรงฉันเสร็จ พระนางนิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุขแล้ว ได้ถวายขาทนียะและโภชนียะที่ประณีตแด่ภิกษุสงฆ์มีพระ-
พุทธเจ้าเป็นประมุขซึ่งนั่งเต็มโรงฉัน.
พระศาสดา ทรงทำภัตกิจเสร็จแล้ว ตรัสถามว่า " นี่เป็นทาน
ของใคร ? "
พระอนุรุทธ. ของโรหิณีพระน้องนางของข้าพระองค์ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ก็นางไปไหน ?
พระอนุรุทธ. อยู่ในตำหนัก พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. พวกท่านจงไปเรียกนางมา.
พระนางไม่ประสงค์จะเสด็จมา. ทีนั้น พระศาสดารับสั่งให้เรียก
พระนางแม้ไม่ปรารถนา (จะมา) จนได้. ก็แลพระศาสดาตรัสกะพระนาง
ผู้เสด็จมาถวายบังคม ประทับนั่งแล้วว่า " โรหิณี เหตุไรเธอจึงไม่มา ? "
พระนางโรหิณี. " โรคผิวหนังมีที่สรีระของหม่อมฉัน พระเจ้าข้า
หม่อมฉันละอายด้วยโรคนั้น. จึงมิได้มา. "
พระศาสดา. ก็เธอรู้ไหมว่า ่โรคนั้นอาศัยกรรมอะไรของเธอ จึง
เกิดขึ้น ? "
พระนางโรหิณี. หม่อมฉันไม่ทราบ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. โรคนั้นอาศัยความโกรธของเธอ จึงเกิดขึ้นแล้ว.
พระนางโรหิณี. ก็หม่อมฉันทำกรรมอะไรไว้ ? พระเจ้าข้า.

บุรพกรรมของพระนางโรหิณี


ลำดับนั้น พระศาสดาทรงนำอดีตนิทานมา (ตรัสแก่พระนาง)ว่า:-