เมนู

เราจะบังหวนควัน ให้สมณะนั้นตาย " บังหวนควันแล้ว.
พระเถระคิดว่า " นาคราชนี้เห็นจะเข้าใจว่า ' เราเท่านั้นอาจบังหวน
ควันได้. พวกอื่นย่อมไม่อาจ ' ดังนี้แล้ว บังหวนควันแม้เอง. ควัน
ทั้งหลายพุ่งออกจากสรีระแห่งนาคราชและพระเถระ แม้ทั้งสองฝ่าย ตั้งขึ้น
จนถึงพรหมโลก. ควันทั้งสองฝ่ายไม่เบียดเบียนพระเถระ เบียดเบียนแต่
นาคราชฝ่ายเดียว. นาคราชไม่อาจอดทนกำลังแห่งควันได้ จึงให้ลุกโพลง
(เป็นไฟ). ฝ่ายพระเถระเข้าสมาบัติมีเตโชธาตุเป็นอารมณ์แล้ว ให้ลุกโพลง
(เป็นไฟ) พร้อมกับนาคราชนั้นเหมือนกัน. เปลวไฟพุ่งขึ้นไปจนถึง
พรหมโลก. เปลวไฟแม้ทั้งสองฝ่ายไม่เบียดเบียนพระเถระ เบียดเบียนแต่
นาคราชฝ่ายเดียว.

นาคราชแพ้พระเถระ


ลำดับนั้น สรีระทั้งสิ้นของนาคราชนั้น ได้เป็นราวกะว่าถูกคบเพลิง
ทั้งหลายลนทั่วแล้ว. หมู่ฤษีแลดูแล้วคิดว่า " นาคราชเผาสมณะ, สมณะ
คนดีหนอ ไม่เชื่อฟังคำของพวกเรา จึงฉิบหายแล้ว. "
พระเถระ ทรมานนาคราชทำให้หมดพยศแล้ว นั่งบนกองทราย.
นาคราชเอาขนดรวบกองทราย แผ่พังพานประมาณเท่าห้องโถงแห่งเรือน
ยอด กั้นอยู่แล้วเบื้องบนแห่งพระเถระ. หมู่ฤษีไปยังสำนักของพระเถระ
แต่เช้าตรู่ ด้วยคิดว่า " พวกเราจักรู้ความที่สมณะตายแล้วหรือยังไม่ตาย "
เห็นท่านนั่งอยู่บนยอดกองทรายแล้ว ประคองอัญชลีชมเชยอยู่ กล่าวว่า
" สมณะ นาคราชไม่เบียดเบียนท่านแลหรือ ? "
พระเถระ. ท่านทั้งหลายไม่เห็นนาคราชแผ่พังพานดำรงอยู่เบื้องบน
แห่งเราหรือ ?