เมนู

พระศาสดาเสด็จลงด้วยพุทธสิริเห็นปานนั้น อันท่านไม่เคยเห็นแล้ว ใน
กาลก่อนแต่นี้. เพราะฉะนั้น จึงประกาศความยินดีของตน ด้วยคาถา
ทั้งหลายเป็นต้นว่า :-
" พระศาสดา ผู้มีถ้อยคำอันไพเราะ ทรงเป็น
อาจารย์แห่งคณะ1 เสด็จมาจากดุสิตอย่างนี้ เรายัง
ไม่เห็น หรือไม่ได้ยินต่อใคร ในกาลก่อนแต่นี้ "

แล้วทูลว่า " พระเจ้าข้า วันนี้เทวดาและมนุษย์แม้ทั้งหมดย่อมกระหยิ่ม
ปรารถนาต่อพระองค์. "
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะท่านว่า " สารีบุตร ชื่อว่าพระพุทธเจ้า
ผู้ประกอบพร้อมด้วยคุณเห็นปานนี้ ย่อมเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์
ทั้งหลายโดยแท้." เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
2. เย ฌานปฺปสุตา ธีรา เนกฺขมฺมูปสเม รตา
เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ.
" พระสัมพุทธเจ้าเหล่าใด เป็นปราชญ์ ขวน
ขวายในฌาน ยินดีแล้วในธรรมที่เข้าไปสงบด้วย
สามารถแห่งการออก, แม้เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ก็ย่อมกระหยิ่มต่อพระสัมพุทธเจ้าเหล่านั้น ผู้มีสติ. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า เย ฌานปฺปสุตา ความว่า ประกอบ
แล้ว ขวนขวายแล้วในฌาน 2 อย่างเหล่านี้ คือ ลักขณูปนิชฌาน อารัม-
1. คณิมาคโต ตัดบทเป็น คณี อาคโต. อรรถกถาว่า.....คณาจริยาตฺตา คณี.....