เมนู

นางจิญจมาณวิการับอาสาพวกเดียรถีย์


ลำดับนั้น เดียรถีย์ผู้มีความรู้เฉียบแหลมคนหนึ่ง กล่าวอย่างนั้นว่า
" เราทั้งหลายอาศัยนางจิญจมาณวิกา พึงยังโทษให้เกิดขึ้นแก่พระสมณโคดม
ยังลาภสักการะ (ของเธอ) ให้ฉิบหายได้." เดียรถีย์เหล่านั้น รับรองว่า
" อุบายนี้ มีอยู่." ต่อมา นางจิญจมาณวิกานั้นไปสู่อารามของเดียรถีย์
ไหว้แล้วได้ยืนอยู่. พวกเดียรถีย์ไม่พูดกับนาง. นางจึงคิดว่า " เรามีโทษ
อะไรหนอแล ? " แม้พูดครั้งที่ 3 ว่า " พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ดิฉันไหว้ "
ดังนี้แล้วจึงพูดว่า " พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ดิฉันมีโทษอะไรหนอแล ?
เพราะเหตุอะไร ท่านทั้งหลาย จึงไม่พูดกับดิฉัน ? "
เดียรถีย์. น้องหญิง เจ้าย่อมไม่ทราบซึ่งพระสมณโคดม ผู้เบียดเบียน
เราทั้งหลาย เที่ยวทำเราทั้งหลายให้เสื่อมลาภสักการะหรือ ?
นางจิญจมาณวิกา. ดิฉันยังไม่ทราบ เจ้าข้า. ก็ในเรื่องนี้ดิฉัน
ควรทำอย่างไรเล่า ?
เดียรถีย์. น้องหญิง ถ้าเจ้าปรารถนาความสุขแก่เราทั้งหลายไซร้,
จงยังโทษให้เกิดขึ้นแก่พระสมณโคดมแล้ว ยังลาภสักการะให้ฉิบหาย
เพราะอาศัยตน.
นางกล่าวว่า " ดีละ พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย. ข้อนี้จงเป็นภาระ
ของดิฉันเอง. ท่านทั้งหลายอย่าคิดแล้ว " ดังนี้แล้ว หลีกไป ห่มผ้ามีสี
ดุจแมลงค่อมทอง มีของหอมและระเบียบดอกไม้เป็นต้นในมือ มุ่งหน้า
ตรงพระเชตวัน ไปอยู่ในสมัยเป็นที่ฟังธรรมกถาแห่งชนชาวเมืองสาวัตถี
แล้วออกไปจากพระเชตวัน ตั้งแต่กาลนั้น เพราะความที่นางเป็นผู้ฉลาด
ในมารยาทของหญิง. เมื่อผู้อื่นถามว่า " นางจะไปไหนในเวลานี้ ? " จึง