เมนู

7. เรื่องธิดานายช่างหูก [143]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในเจดีย์ชื่อว่าอัคคาฬวะ ทรงปรารภ
ธิดาของนายช่างหูกคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อนฺธภูโต อยํ
โลโก "
เป็นต้น.

คนเจริญมรณสติไม่กลัวตาย


ความพิสดารว่า วันหนึ่ง พวกชาวเมืองอาฬวี เมื่อพระศาสดา
เสด็จถึงเมืองอาฬวีแล้ว ได้ทูลนิมนต์ถวายทานแล้ว. พระศาสดาเมื่อจะ
ทรงทำอนุโมทนาในเวลาเสร็จภัตกิจ จึงตรัสว่า " ท่านทั้งหลายจงเจริญ
มรณสติอย่างนี้ว่า ' ชีวิตของเราไม่ยั่งยืน, ความตายของเราแน่นอน, เรา
พึงตายแน่แท้. ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุด. ชีวิตของเราไม่เที่ยง.
ความตายเที่ยง; ก็มรณะอันชนทั้งหลายใดไม่เจริญแล้ว, ในกาลที่สุด
ชนทั้งหลายนั้น ย่อมถึงความสะดุ้ง ร้องอย่างขลาดกลัวอยู่ทำกาละ เหมือน
บุรุษเห็นอสรพิษแล้วกลัวฉะนั้น; ส่วนมรณะอันชนทั้งหลายใดเจริญแล้ว
ชนทั้งหลายนั้น ย่อมไม่สะดุ้งในกาลที่สุด ดุจบุรุษเห็นอสรพิษแต่ไกล
เทียว แล้วก็เอาท่อนไม้เขี่ยทิ้งไปยืนอยู่ฉะนั้น; เพราะฉะนั้นมรณสติอัน
ท่านทั้งหลายพึงเจริญ. "

พระศาสดาเสด็จประทานโอวาทธิดาช่างหูก


พวกชนที่เหลือฟังพระธรรมเทศนานั้นแล้ว ได้เป็นผู้ขวนขวายใน
กิจของตนอย่างเดียว. ส่วนธิดาของนายช่างหูกอายุ 16 ปีคนหนึ่ง คิดว่า
" โอ ธรรมดาถ้อยคำของพระพุทธเจ้าทั้งหลายอัศจรรย์, เราเจริญมรณสติ

จึงควร " ดังนี้แล้ว ก็เจริญมรณสติอย่างเดียวตลอดทั้งกลางวันกลางคืน.
ฝ่ายพระศาสดาเสด็จออกจากเมืองอาฬวีแล้ว ก็ได้เสด็จไปพระเชตวัน.
นางกุมาริกาแม้นั้น ก็เจริญมรณสติสิ้น 3 ปีทีเดียว. ต่อมาวันหนึ่ง พระ-
ศาสดาทรงตรวจดูโลก ในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นนางกุมาริกานั้น เข้าไป
ในภายในข่าย คือพระญาติของพระองค์ ทรงใคร่ครวญว่า " เหตุอะไร
หนอ ? จักมี " ทรงทราบว่า นางกุมาริกานี้เจริญมรณสติแล้วสิ้น 3 ปี
ตั้งแต่วันที่ฟังธรรมเทศนาของเรา. บัดนี้ เราไปในที่นั้นแล้ว ถามปัญหา
4 ข้อกะนางกุมาริกานี้ เมื่อนางเเก้ปัญหาอยู่ จักให้สธุการในฐานะ 4
แล้วภาษิตคาถานี้. ในเวลาจบคาถา นางกุมาริกานั้น จักตั้งอยู่ในโสดา-
ปัตติผล, เพราะอาศัยนางกุมาริกานั้น เทศนาจักมีประโยชน์แม้แก่มหาชน
ดังนี้แล้ว มีภิกษุประมาณ 500 รูปเป็นบริวาร ได้เสด็จออกจากพระ-
เชตวัน ไปสู่อัคคาฬววิหารโดยลำดับ. ชาวเมืองอาฬวีทราบว่า " พระ-
ศาสดาเสด็จมาแล้ว " จึงไปวิหาร ทูลนิมนต์แล้ว. แม้นางกุมาริกานั้น ทราบ
การเสด็จมาของพระศาสดา มีใจยินดีว่า " ข่าวว่า พระมหาโคดมพุทธเจ้า
ผู้พระบิดา ผู้เป็นใหญ่ เป็นพระอาจารย์ ผู้มีพระพักตร์ดังพระจันทร์เพ็ญ
ของเราเสด็จมาแล้ว " จึงคิดว่า " พระศาสดา ผู้มีวรรณะดังทองคำ อัน
เราเคยเห็น ในที่สุด 3 ปี แต่วันนี้. บัดนี้ เราจักได้เห็นพระสรีระซึ่งมี
วรรณะดังทองคำ และฟังธรรมอันเป็นโอวาท ซึ่งโอชะอันไพเราะ
(จับใจ) ของพระศาสดานั้น. "
ฝ่ายบิดาของนาง เมื่อจะไปสู่โรงหูก ได้สั่งไว้ว่า " แม่ ผ้าสาฎก
ซึ่งเป็นของคนอื่น เรายกขึ้นไว้ (กำลังทอ), ผ้านั้นประมาณคืบหนึ่ง ยัง

ไม่สำเร็จ; เราจะให้ผ้านั้นเสร็จในวันนี้. เจ้ากรอด้ายหลอดแล้ว พึงนำ
มาให้แก่พ่อโดยเร็ว. " นางกุมาริกานั้นคิดว่า " เราใคร่จะฟังธรรมของ
พระศาสดา ก็บิดาสั่งเราไว้อย่างนี้; เราจะฟังธรรมของพระศาสดาหรือ
หนอแล หรือจะกรอด้ายหลอดแล้วนำไปให้แก่บิดา ? " ครั้งนั้น นาง
กุมาริกานั้น ได้มีความปริวิตกอย่างนั้นว่า " เมื่อเราไม่นำด้ายหลอดไปให้
บิดาพึงโบยเราบ้าง พึงตีเราบ้าง. เพราะฉะนั้น เรากรอด้ายหลอดให้เเก่
ท่านแล้ว จึงจักฟังธรรมในภายหลัง " ดังนี้แล้ว จึงนั่งกรอด้ายหลอดอยู่
บนตั่ง แม้พวกชาวเมืองอาฬวีอังคาสพระศาสดาแล้ว ได้รับบาตร ยืนอยู่
เพื่อต้องการอนุโมทนา. พระศาสดาประทับนั่งแล้ว ด้วยทรงดำริว่า " เรา
อาศัยกุลธิดาใดมาแล้วสิ้นทาง 30 โยชน์, กุลธิดานั้น ไม่มีโอกาสแม้ใน
วันนี้. เมื่อกุลธิดานั้นได้โอกาสเราจักทำอนุโมทนา. " ก็ใครๆในโลก
พร้อมทั้งเทวโลก ย่อมไม่อาจเพื่อจะทูลอะไร ๆ กะพระศาสดา ผู้ทรงนิ่ง
อย่างนั้นได้. แม้นางกุมาริกานั้นแล กรอด้ายหลอดแล้วใส่ในกระเช้า
เดินไปสู่สำนักของบิดา ถึงที่สุดของบริษัทแล้ว ก็ได้เดินแลดูพระศาสดา
ไป. แม้พระศาสดา ก็ทรงชะเง้อ1ทอดพระเนตรนางกุมาริกานั้น. ถึงนาง
กุมาริกานั้นก็ได้ทราบแล้ว โดยอาการที่พระศาสดาทอดพระเนตรเหมือน
กันว่า " พระศาสดา ประทับนั่งอยู่ในท่ามกลางบริษัทเห็นปานนั้น ทอด
พระเนตรเราอยู่ ย่อมทรงหวังการมาของเรา ย่อมทรงหวังการมาสู่สำนัก
ของพระองค์ทีเดียว. " นางวางกระเช้าด้ายหลอด แล้วได้ไปยังสำนักของ
พระศาสดา.
1. คีวํ อุกฺขิปิตฺวา.

ถามว่า " ก็เพราะเหตุอะไร ? พระศาสดา จึงทอดพระเนตรนาง
กุมาริกานั้น."
แก้ว่า " ได้ยินว่า พระองค์ได้ทรงปริวิตกอย่างนี้ว่า " นางกุมาริกา
นั้น เมื่อไปจากที่นี้ ทำกาลกิริยาอย่างปุถุชนแล้ว จักเป็นผู้มีคติไม่แน่นอน.
แต่มาสู่สำนักของเราแล้วไปอยู่ บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว จักเป็นผู้มีคติ
แน่นอน เกิดในดุสิตวิมาน." นัยว่า ในวันนั้น ชื่อว่าความพ้นจากความ
ตายไม่มีแก่นางกุมาริกานั้น.
นางกุมาริกานั้น เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ด้วยเครื่องหมายอันพระศาสดา
ทอดพระเนตรนั่นแล เข้าไปสู่ระหว่างแห่งรัศมี มีพรรณะ 6 ถวายบังคม
แล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง.

พระศาสดาตรัสถามปัญหากะธิดาช่างหูก


ในขณะที่นางกุมาริกานั้น ถวายบังคมพระศาสดาผู้ประทับนั่งนิ่งใน
ท่ามกลางบริษัทเห็นปานนั้นแล้ว ยืนอยู่นั่นแล พระศาสดาตรัสกะนางว่า
" กุมาริกา เธอมาจากไหน ? "
กุมาริกา. ไม่ทราบ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เธอจักไปที่ไหน ?
กุมาริกา. ไม่ทราบ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เธอไม่ทราบหรือ ?
กุมาริกา. ทราบ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เธอทราบหรือ ?
กุมาริกา. ไม่ทราบ พระเจ้าข้า.