เมนู

9. เรื่องอุบาสิกาชื่อจุลกาล [135]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภอุบาสกชื่อ
จุลกาล ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อตฺตนาว กตํ ปาปํ " เป็นต้น.

จุลกาลถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร


ความพิสดารว่า วันหนึ่งพวกโจรขุดอุโมงค์ อันเจ้าของทั้งหลาย
ติดตามแล้ว จึงทิ้งห่อภัณฑะไว้ข้างหน้าของอุบาสก ผู้ฟังธรรมกถาใน
วิหารตลอดราตรี เดินออกจากวิหารแต่เช้าตรู่มาสู่กรุงสาวัตถีแล้ว ก็หลบ
หนีไป โดยนัยที่กล่าวแล้วในเรื่องมหากาลนั่นแล. พวกมนุษย์เห็นเข้า
แล้ว พูดว่า " คนนี้ ทำโจรกรรมในราตรีแล้ว ทำทีเหมือนฟังธรรม
เที่ยวไป, ท่านทั้งหลายจงช่วยกันจับมันไว้ ดังนี้แล้ว โบยอุบาสกนั้น.

จุลกาลรอดตายเพราะนางกุมภทาสีช่วย


หมู่นางกุมภทาสี เดินไปท่าน้ำ ประสบเหตุนั้น จึงกล่าวว่า " นาย
ท่านทั้งหลายจงหลีกไป. ท่านผู้นี้ย่อมไม่ทำกรรมเห็นปานนั้น " ดังนี้แล้ว
ให้มนุษย์พวกนั้นปล่อยเขาแล้ว. เขาไปวิหาร บอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
" ท่านขอรับ ก็กระผมถูกมนุษย์ทั้งหลายให้ฉิบหายแล้ว. กระผมได้ชีวิต
เพราะอาศัยพวกนางกุมภทาสี. " ภิกษุทั้งหลายกราบทูลความนั้นแด่พระ-
ตถาคต.

จะเศร้าหมองหรือผ่องแผ้วเพราะตน


พระศาสดา ทรงสดับถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้นเเล้ว ตรัสว่า " ภิกษุ

ทั้งหลาย จุลกาลอุบาสก ได้ชีวิตเพราะอาศัยพวกนางกุมภทาสี และ
ความที่ตนไม่ใช่ผู้ทำ ; ด้วยว่า ธรรมดาสัตว์เหล่านี้ทำบาปกรรมด้วยตน
แล้ว ย่อมเศร้าหมองด้วยตนเอง ในอบายมีนรกเป็นต้น. ส่วนสัตว์
ทั้งหลายทำกุศลแล้ว ไปสู่สุคติและนิพพาน ย่อมชื่อว่าบริสุทธิ์ได้ด้วยตน
เอง " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
9. อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย.
" บาปอันผู้ใดทำแล้วด้วยตนเอง ผู้นั้นย่อมเศร้า
หมองด้วยตน ; บาปอันผู้ใดไม่ทำด้วยตน, ผู้นั้นย่อม
บริสุทธิ์ด้วยตนเอง ; ความบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์ เป็น
ของเฉพาะตน, คนอื่นทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้. "

แก้อรรถ


ความแห่งพระคาถานั้นว่า :-
อกุศลกรรมเป็นกรรมอันผู้ใดทำแล้วด้วยตน. ผู้นั้นเมื่อเสวยทุกข์
ในอบาย 4 ชื่อว่าเศร้าหมองด้วยตนเอง ; ส่วนบาปอันผู้ใดไม่ได้ทำด้วย
ตน ผู้นั้นเมื่อไปสู่สุคติและนิพพาน ชื่อว่าย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง. ความ
บริสุทธิ์กล่าวคือกุศลกรรม และความไม่บริสุทธิ์กล่าวคืออกุศลกรรม เป็น
ของเฉพาะตน คือย่อมเผล็ดผลเฉพาะในตนของสัตว์ผู้ทำทั้งหลาย. บุคคล