เมนู

นั้นด้วยผ้าและจีวรเป็นอันมากทีเดียว. พระอุปนันทะนั้นออกพรรษาแล้ว
ส่งข่าวไปในวิหารแม้นอกนี้ว่า " เราควรได้ผ้าจำนำพรรษา เพราะเราวาง
บริขารไว้, ภิกษุทั้งหลายจงส่งผ้าจำนำพรรษาให้เรา " ให้นำผ้าจำนำ
พรรษาทั้งหมดมาแล้ว บรรทุกยานน้อยขับไป.

พระอุปนันทะตัดสินข้อพิพากษา


ครั้งนั้นภิกษุหนุ่ม 2 รูปในวิหารแห่งหนึ่ง ได้ผ้าสาฎก 2 ผืน
และผ้ากัมพลผืนหนึ่ง ไม่อาจจะแบ่งกันได้ว่า " ผ้าสาฎกจงเป็นของท่าน,
ผ้ากัมพลเป็นของเรา " นั่งทะเลาะกันอยู่ใกล้หนทาง. ภิกษุหนุ่ม 2 รูปนั้น
เห็นพระเถระนั้นเดินมา จึงกล่าวว่า " ขอท่านจงช่วยแบ่งให้แก่พวกผม
เถิด ขอรับ. "
เถระ. พวกคุณจงแบ่งกันเองเถิด.
ภิกษุ. พวกผมไม่สามารถ ขอรับ ขอท่านจงแบ่งให้พวกผมเถิด.
เถระ. พวกคุณจักตั้งอยู่ในคำของเราหรือ ?
ภิกษุ. ขอรับ พวกผมจักตั้งอยู่.
พระเถระนั้นกล่าวว่า " ถ้ากระนั้น ดีละ " ให้ผ้าสาฎก 2 ผืนแก่
ภิกษุหนุ่ม 2 รูปนั้นแล้ว กล่าวว่า " ผ้ากัมพลผืนนี้ จงเป็นผ้าห่มของเรา
ผู้กล่าวธรรมกถา " ดังนี้แล้ว ก็ถือเอาผ้ากัมพลมีค่ามากหลีกไป. พวก
ภิกษุหนุ่มเป็นผู้เดือดร้อน ไปสู่สำนักพระศาสดา กราบทูลเนื้อความนั้น
แล้ว.

บุรพกรรมของพระอุปนันทะ


พระศาสดา ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย อุปนันทะนี้ถือเอาของ ๆ พวก