เมนู

ชื่อโสมทัตกุมาร บำรุงพระราชาแล้ว. เธอได้เป็นที่โปรดปรานพอพระ-
หฤทัยของพระราชา. ส่วนพราหมณ์อาศัยกสิกรรมเลี้ยงชีพ. พราหมณ์
นั้นมีโค 2ตัว. ใน 2 ตัวนั้น ตัว 1 ได้ล้มเสียแล้ว. พราหมณ์จึง
กล่าวกะบุตรชายว่า " พ่อโสมทัต พ่อจงทูลขอในหลวง นำโคมาให้พ่อ
ตัวหนึ่ง. "

โสมทัตสอนพ่อให้ทูลขอโค


มหาดเล็กโสมทัตคิดว่า " ถ้าเราจักขอพระราชทานกะสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวไซร้, ความเป็นคนผลุนผลันจักปรากฏแก่เรา " จึงพูดว่า
" คุณพ่อขอรับ คุณพ่อเองจงขอพระราชทานกะในหลวงเถิด " เมื่อบิดา
พูดว่า " ลูกเอ๋ย ถ้ากระนั้น เจ้าจงพาเข้าไปเถิด, " จึงคิดว่า " ท่าน
พราหมณ์นี้ มีปัญญาแล่นช้า ย่อมไม่รู้จักแม้สักแต่คำพูดเป็นต้นว่า " จง
ไปข้างหน้า จงถอยมาข้างหลัง. เมื่อคำอื่นอันควรพูด ก็ไพล่พูดคำอื่น
เสีย เราจะให้สำเหนียกแล้วจึงพาท่านไป. " เธอพาท่านไปป่าช้า ชื่อ
วีรณัตถัมภกะแล้ว จึงมัดฟ่อนหญ้าหลายฟ่อน ทำสมมติว่า " ฟ่อนหญ้า
นี้เป็นเจ้าชีวิต. ฟ่อนหญ้านี้เป็นวังหน้า. ฟ่อนหญ้านี้เป็นเสนาบดี " ดังนี้
เป็นต้น แสดงแก่บิดาตามลำดับแล้ว จึงชี้แจงว่า " อันคุณพ่อไปราชสกุล
ต้องเดินหน้าอย่างนี้. ต้องถอยหลังอย่างนี้. พระเจ้าอยู่หัว ต้องกราบ
บังคมทูลอย่างนี้. วังหน้าต้องกราบทูลอย่างนี้. คุณพ่อเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว
แล้ว ต้องถวายชัยมงคลอย่างนี้ว่า ' ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าฯ
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงทรงชนะเถิด ' ดังนี้ พึงว่าคาถานี้
แล้ว ขอพระราชทานโคเถิด " จึงให้บิดาเรียนคาถาว่า