เมนู

พระชนม์ พระนางมัลลิกานั้นมิได้ทรงนึกถึงการบริจาคใหญ่ เห็นปาน
นั้น ทรงระลึกถึงกรรมอันลามกนั้นอย่างเดียว สิ้นพระชนม์แล้ว ก็บังเกิด
ในอเวจี. ก็พระนางมัลลิกานั้นได้เป็นผู้โปรดปรานของพระราชาอย่างยิ่ง.

พระราชาทูลถามสถานที่พระนางเกิด


ท้าวเธออันความโศกเป็นกำลังครอบงำ รับสั่งให้ทำฌาปนกิจ
พระสรีระของพระนางแล้ว ทรงดำริว่า " เราจะทูลถามสถานที่เกิดของ
พระนาง " จึงได้เสด็จไปยังสำนักของพระศาสดา. พระศาสดาได้ทรงทำ
โดยประการที่ท้าวเธอระลึกถึงเหตุที่เสด็จมาไม่ได้. ท้าวเธอทรงสดับธรรม-
กถาชวนให้ระลึกถึง ในสำนักของพระศาสดาแล้ว ก็ทรงลืม; ในเวลา
เสด็จเข้าไปสู่พระราชนิเวศน์ ทรงระลกได้ จึงตรัสว่า " พนาย ฉันตั้งใจ
ว่า ' จักทูลถามที่พระนางมัลลิกาเทวีเกิด ' ไปยังสำนักของพระศาสดาก็
ลืมเสีย. วันพรุ่งนี้ ฉันจะทูลถามอีก " ดังนี้แล้ว ก็ได้เสด็จไป แม้ใน
วันรุ่งขึ้น. ฝ่ายพระศาสดาก็ได้ทรงทำ โดยประการที่ท้าวเธอระลึกไม่ได้
ตลอด 7 วันโดยลำดับ.
ฝ่ายพระนางมัลลิกานั้นไหม้ในนรกตลอด 7 วันเท่านั้น. ในวันที่ 8
จุติจากที่นั้นแล้ว เกิดในดุสิตภพ.
ถามว่า " ก็เพราะเหตุไร พระศาสดา จึงได้ทรงทำความที่พระราชา
นั้น ทรงระลึกไม่ได้ ? "
แก้ว่า " ทราบว่า พระนางมัลลิกานั้น ได้เป็นที่โปรดปรานพอ
พระทัยของพระราชานั้นอย่างที่สุด ? " เพราะฉะนั้น ท้าวเธอทราบว่า
พระนางเกิดในนรกแล้ว ก็จะทรงยึดถือมิจฉาทิฏฐิ ด้วยทรงดำริว่า " ถ้า
หญิงสมบูรณ์ด้วยศรัทธาเห็นปานนี้ เกิดในนรกไซร้ เราจะถวายทานทำ