เมนู

พระนาง. ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้า ฯ ผู้ใดผู้หนึ่งเข้า
ไปยังซุ้มน้ำนี้ผู้เดียวเท่านั้น ก็ปรากฏเห็นสองคน แก่ผู้ที่แลดูทางพระ-
แกลนี้.
พระราชา. เจ้าพูดไม่จริง หญิงชั่ว.
พระนาง. พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ไม่ทรงเชื่อหม่อมฉัน. ขอเชิญ
พระองค์เสด็จเข้าไปยังซุ้มน้ำนั้น. หม่อมฉันจักแลดูพระองค์ทางพระแกลนี้.
พระราชาติดจะเขลา จึงทรงเชื่อถ้อยคำของพระนาง แล้วเสด็จเข้า
ไปยังซุ้มน้ำ. ฝ่ายพระนางเทวีนั้นแล ทรงยืนทอดพระเนตรอยู่ที่พระแกล
ทูลว่า " มหาราชผู้มืดเขลา ชื่ออะไรนั่น. พระองค์ทรงทำสันถวะกับ
นางแพะ " แม้เมื่อพระราชาจะตรัสว่า " นางผู้เจริญ ฉันมิได้ทำกรรม
เห็นปานนั้น " ก็ทูลว่า " แม้หม่อมฉันเห็นเอง หม่อมฉันจะเชื่อพระองค์
ไม่ได้ " พระราชาทรงสดับคำนั้นแล้ว ก็ทรงเชื่อว่า " ผู้เข้าไปยังซุ้มน้ำ
นี้ ผู้เดียวเท่านั้น ก็ย่อมปรากฏเป็นสองคนแน่. " พระนางมัลลิกา ทรง
ดำริว่า " พระราชานี้ อันเราลวงได้เเล้ว ก็เพราะพระองค์โง่เขลา. เรา
ทำกรรมชั่วแล้ว, ก็พระราชานี้ เรากล่าตู่ด้วยคำไม่จริง. แลแม้พระ-
ศาสดา จักทรงทราบกรรมนี้ของเรา. พระอัครสาวกทั้งสองก็ดี พระ-
อสีติมหาสาวกก็ดี จักทราบ; ตายจริง เราทำกรรมหนักแล้ว." ทราบว่า
พระนางมัลลิกานี้ ได้เป็นสหายในอสติสทานของพระราชา.

พระนางมัลลิกาเกิดในอเวจี


ก็ในอสติสทานนั้น การบริจาคที่ทรงทำในวันหนึ่ง มีค่าถึงทรัพย์
14โกฏิ. ก็เศวตฉัตร บัลลังก์ประทับนั่ง เชิงบาตร ตั่งสำหรับรอง
พระบาทของพระตถาคตเจ้า 4 อย่างนี้ ได้มีค่านับไม่ได้. ในเวลาจะสิ้น