เมนู

11. ชราวรรควรรณนา


1. เรื่องหญิงสหายของนางวิสาขา [118]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพวกหญิง
สหายของนางวิสาขา ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โก นุ หาโส กิมา-
นนฺโท "
เป็นต้น.

สามีมอบภรรยาของตนแก่นางวิสาขา


ดังได้สดับมา กุลบุตร 500 คน ในพระนครสาวัตถี ได้มอบภริยา
ของตนๆกะนางวิสาขามหาอุบาสิกา ด้วยมุ่งหมายว่า " ด้วยอุบายอย่างนี้
ภริยาเหล่านี้จักเป็นผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท. " หญิงเหล่านั้นเมื่อไปสวน
ก็ดี ไปวิหารก็ดี ย่อมไปกับนางวิสาขานั่นแล.

มหรสพเกี่ยวกับสุรา


ในคราวหนึ่ง เมื่อเขาโฆษณาการมหรสพว่า " จักมีการมหรสพ
เกี่ยวกับสุราตลอด 7 วัน " หญิงเหล่านั้นก็จัดเตรียมสุราเพื่อสามีของตนๆ
สามีเหล่านั้น เล่นมหรสพเกี่ยวกับสุราตลอด 7 วันแล้ว ในวันที่ 8 ได้
ออกไปเพื่อทำการงาน.

หญิงเหล่านั้นคิดหาอุบายดื่มสุรา


หญิงแม้เหล่านั้นหารือกันว่า " พวกเราไม่ได้ดื่มสุราต่อหน้าสามี,
ก็สุราที่เหลือยังมีอยู่, เราทั้งหลายจักดื่มสุรานี้ด้วยวิธีที่สามีเหล่านั้นจะไม่
รู้ " ดังนี้แล้ว จึงไปสำนักของนางวิสาขา กล่าวว่า " แม่เจ้า ดิฉันทั้งหลาย

ปรารถนาจะชมสวน " เมื่อนางวิสาขาตอบว่า " ดีละ แม่ทั้งหลาย ถ้าเช่น
นั้น จงทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้วจึงออกไป. " ได้ไปพร้อมกับนางวิสาขานั้น
ซ่อนสุราไปโดยอาการอันมิดชิด ดื่มเสีย (จน) เมาแล้ว เที่ยวไปในสวน.
นางวิสาขาคิดว่า " หญิงเหล่านี้ทำกรรมไม่สมควร. คราวนี้ถึงพวกเดียรถีย์
ก็จักติเตียนได้ว่า " สาวิกาทั้งหลายของพระสมณโคคม ดื่มสุรา ย่อมเที่ยว
ไป " จึงกล่าวกะหญิงเหล่านั้นว่า " นี่แน่ะแม่ เธอทั้งหลายทำกรรมไม่
สมควร. พลอยให้เกิดอัปยศแก่ฉันด้วย. ถึงสามีก็จะโกรธพวกเธอ. บัดนี้
พวกเธอจักทำอย่างไรกัน ? " หญิงเหล่านั้นตอบว่า " แม่เจ้า ดิฉันทั้งหลาย
จักแสดงอาการลวงว่าเป็นไข้ " นางวิสาขาจึงกล่าวว่า " ถ้าเช่นนั้น พวก
เธอก็จักปรากฏด้วยกรรมของตน." หญิงเหล่านั้นไปถึงเรือนแล้ว ทำท่า
ลวงว่าเป็นไข้. ทีนั้นสามีของหญิงเหล่านั้นถามว่า " หญิงชื่อนี้และชื่อนี้ไป
ไปไหน ? " ได้ยินว่า " เป็นไข้ " ก็กำหนดจับได้ว่า " พวกนี้จักดื่มสุรา
ที่เหลือเป็นแน่ " จึงได้ทุบตีหญิงเหล่านั้นให้ถึงความเสื่อมเสีย. ในคราว
มหรสพแม้อื่นอีก หญิงเหล่านั้นอยากดื่มสุราเหมือนอย่างนั้น จึงเข้าไปหา
นางวิสาขา กล่าวว่า " แม่เจ้า โปรดพาดิฉันไปชมสวนเถิด " ถูกนาง
ห้ามว่า " แม้ในคราวก่อน เธอทั้งหลายกระทำให้อัปยศแก่ฉัน. ไปเอง
เถอะ, ฉันจะไม่พาเธอทั้งหลายไปละ " ได้พูดเอาใจว่า " ทีนี้ พวกดิฉันจัก
ไม่ทำอย่างนั้น " แล้วเข้าไปหานางวิสาขานั้น พูดใหม่ว่า " แม่เจ้า ดิฉัน
ทั้งหลายประสงค์จะทำพุทธบูชา. ขอจงพาดิฉันทั้งหลายไปวิหารเถิด. "
นางจึงพูดว่า " แน่ะแม่ บัดนี้ สมควร (แท้). เธอทั้งหลายจงไปจัดแจง
เตรียมตัวเถอะ. หญิงเหล่านั้น ให้คนถือของหอมเเละระเบียบดอกไม้เป็นต้น
ด้วยผอบ หิ้วขวดมีสัณฐานดุจกำมือ ซึ่งเต็มด้วยสุรา ด้วยมือทั้งสอง

คลุมผ้าผืนใหญ่เข้าไปหานางวิสาขาแล้ว เข้าไปวิหารพร้อมกับนางวิสาขา
นั้น นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง ดื่มสุราด้วยขวดอันมีสัณฐานดุจกำมือนั่นเอง
แล้วทิ้งขวดเสีย นั่งตรงพระพักตร์พระศาสดาในโรงธรรม. นางวิสาขา
กราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ขอพระองค์แสดงธรรมแก่หญิงเหล่านี้. "
ผ่ายหญิงเหล่านั้น มีตัวสั่นเทิ้มอยู่ด้วยฤทธิ์เมา เกิดความคิดขึ้นว่า " เรา
ทั้งหลายจักฟ้อน จักขับ. "

เทวบุตรมารบันดาลให้แสดงกายวิการแต่ไม่สำเร็จ


ลำดับนั้น เทวดาองค์หนึ่ง ซึ่งนับเนื่องในหมู่มาร คิดว่า " บัดนี้
เราจักสิงในสรีระของหญิงเหล่านี้แล้ว จักแสดงประการอันแปลกตรง
พระพักตร์พระสมณโคดม " แล้วเข้าสิงในสรีระของหญิงเหล่านั้น บรรดา
หญิงเหล่านั้น บางพวกจะเริ่มปรบมือหัวเราะ, บางพวกเริ่มจะฟ้อน ตรง
พระพักตร์พระศาสดา. พระศาสดาทรงรำพึงว่า " นี้อย่างไรกัน ? " ทรง
ทราบเหตุนั้นแล้ว ทรงดำริแล้วว่า " บัดนี้ เราจักไม่ให้เทวดาผู้นับเนื่องใน
หมู่มารได้ช่อง. เพราะเมื่อเราบำเพ็ญบารมีตลอดกาลเท่านี้ ก็หาได้บำเพ็ญ
เพื่อมุ่งจะให้พวกเทวดาผู้นับเนื่องในหมู่มารได้ช่องไม่ " เพื่อจะให้หญิง
เหล่านั้นสังเวช จึงทรงเปล่งรัศมีจากพระโลมาระหว่างพระโขนง1 ทันใด
นั้นเอง ความมืดมนอนธการได้มีแล้ว. หญิงเหล่านั้นได้หวาดหวั่น อัน
มรณภัยคุกคามแล้ว ด้วยเหตุนั้น สุราในท้องของหญิงเหล่านั้นจึงสร่างคลาย
ไป. พระศาสดาทรงหายไป ณ บัลลังก์ที่ประทับนั่ง ประทับยืนอยู่บน
ยอดเขาสิเนรุ ทรงเปล่งพระรัศมีจากพระอุณาโลม. ขณะนั้น แสงสว่าง
ได้มีเหมือนพระจันทร์ขึ้นตั้งพันดวง. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสเรียกหญิง
1. ภมุกโลมโตติ. ภมุกนฺตเร โลมโต.